วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Taiwan Light Frigate Program

 

จีนยุติการซ้อมรบใหญ่รอบเกาะไต้หวันเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงส่งเครื่องบินมาให้ถ่ายภาพไปอวดประชาชนตามปรกติ ระหว่างฝึกซ้อมมีการเผชิญหน้ากันระหว่างเรือรบสองฝ่าย ปรากฏว่าเรือจีนเป็นฝ่ายได้เปรียบเรือไต้หวันอย่างชัดเจน ผู้เขียนหมายถึงจีนได้เปรียบเรื่องค่าใช้จ่ายนะครับ เรามาเปรียบมวยระหว่างสองชาติกันสัก 3 คู่

คู่ที่หนึ่ง

-จีน: เรือพิฆาตชั้น Type 052D ระวางขับน้ำ 7,500 ตัน ใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 2 ตัวกับเครื่องยนต์ดีเซล 2 ตัว

-ไต้หวัน: เรือพิฆาตชั้น KIDD ระวางขับน้ำ 7,289 ตัน ใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 4 ตัว

ผลสรุป: ความเร็วเดินทางเรือจีนค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เนื่องจากใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลัก

คู่ที่สอง

-จีน: เรือฟริเกตชั้น Type 054A ระวางขับน้ำ 3,963 ตัน ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 ตัว

-ไต้หวัน: เรือฟริเกตชั้น Oliver Hazard Perry ระวางขับน้ำ 4,100 ตัน ใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ 2 ตัว

ผลสรุป: เรือจีนค่าใช้จ่ายน้อยกว่าทุกระดับความเร็ว เนื่องจากใช้เครื่องยนต์ดีเซลล้วน ส่วนเรือไต้หวันใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ล้วน

คู่ที่สาม

-จีน: เรือคอร์เวตชั้น Type 056 ระวางขับน้ำ 1,500 ตัน ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2 ตัว

-ไต้หวัน: เรือฟริเกตชั้น KNOX ระวางขับน้ำ 4,065 ตัน ใช้เครื่องกังหันไอน้ำ Steam Turbine 1 ตัว

ผลสรุป: เรือจีนค่าใช้จ่ายน้อยกว่าทุกระดับความเร็ว เพราะใช้เครื่องยนต์ดีเซลล้วน และเรือขนาดเล็กกว่าเรือไต้หวันอย่างเห็นได้ชัด

การแบกน้ำหนักเรือโดยส่งเรือใหญ่ตามประกบเรือเล็ก ส่งผลเสียหายอย่างหนักต่อค่าใช้จ่ายกองทัพเรือไต้หวัน รวมทั้งค่าซ่อมบำรุงเรือฟริเกตยุคสงครามเย็นอายุ 40 กว่าปี ใช้เครื่องยนต์โบราณยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่เรือคอร์เวตจีนใช้เครื่องยนต์ดีเซลทันสมัยกว่าประหยัดกว่า อายุประจำการเรือไม่กี่ปีเท่านั้น ค่าซ่อมบำรุงน้อยกว่าเกินสองเท่าตัว

นี่คือวิธีเชือดเฉือนเอาชนะฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ต้องเหนี่ยวไกปืนแม้แต่นัดเดียว

บทวิเคราะห์: ถ้าจีนส่งเรือรบมาก่อกวนทุกวันวันละ 15-20 ลำ ภายใน 6-8 เดือนกองทัพเรือไต้หวันจะเกิดวิกฤตด้านพลังงานอย่างหนัก กับปัญหาการซ่อมบำรุงเรือรบเก่าอายุมากกว่า 30 ปีจากอเมริกาทุกลำ

ด่านตั้งรับของไต้หวัน

ในการฝึกซ้อมแต่ละวันจีนส่งเรือรบจำนวน 15-20 ลำ ลอยลำข้ามจุดแบ่งช่องแคบไต้หวันก่อนกระจายกำลังโอบล้อมเป้าหมาย จากนั้นจึงส่งหน่วยกล้าตายเข้าใกล้ทะเลอาณาเขตหรือ Territorial Waters ของไต้หวัน โดยมีเครื่องบินขับไล่จำนวน 20-30 ลำเข้ามาก่อกวนในเขตป้องกันภัยทางอากาศหรือ ADIZ

การตั้งรับของไต้หวันแบ่งเป็น 2 ด่านสำคัญ

ด่านแรก: กองเรือที่จีนลอยลำอยู่ในระยะห่างไกล ไต้หวันจะส่งเรือรบตามประกบแบบห่างๆ หน้าที่นี้ส่วนใหญ่เป็นของเรือฟริเกตชั้น Kang Ding หรือ La Fayette เวอร์ชันไทเป เนื่องจากเป็นเรือใหม่อายุอานามเพียง 24-26 ปี ใช้เครื่องยนต์ดีเซลล้วนประหยัดค่าใช้จ่ายพอสมควร

ด่านสอง: เรือรบจีนที่จงใจลอยลำเข้าใกล้ทะเลอาณาเขต หรือลุกล้ำเข้าสู่ทะเลอาณาเขตโดยความตั้งใจ ไต้หวันจะใช้เรือพิฆาตชั้น KIDD เรือฟริเกตชั้น Oliver Hazard Perry และเรือฟริเกตชั้น KNOX ตามประกบระยะชิดใกล้แบบแมนทูแมน โดยมีอากาศไร้คนขับขนาดกลาง กับฐานปล่อยอาวุธนำวิถีบนชายฝั่งช่วยประสานงาน เรือลำไหนมีแนวโน้มฝ่าเข้าใกล้น่านน้ำภายในหรือ Internal Waters ไต้หวันจะส่งเรือแล่นเข้าเทียบกราบเรือพร้อมกับแจ้งเตือนผ่านวิทยุครั้งสุดท้าย หากยังดื้อเพ่งไม่หักหัวเรือกลับไต้หวันจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีรุนแรงมากกว่าเดิม

ผู้เขียนขอลงลึกรายละเอียดสักเล็กน้อย เนื่องจากจีนส่งเครื่องบินขับไล่เข้ามาจำนวนมาก แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศเรือฟริเกตชั้น Kang Ding จัดว่าไม่ดีเท่าไร เพราะเรือติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน Sea Chaparral (หรือ Sidewinder) ค่อนข้างโบราณ กับระบบป้องกันตนเองระยะประชิด Phalnx 1 กระบอก เป็นรองเรือฟริเกตชั้นอื่นของไต้หวันที่ติดตั้ง SM-1 กับ Phalanx 1 กระบอก และห่างไกลเรือพิฆาตที่ติดตั้ง SM-2 กับ Phalanx อีก 2 กระบอกถึงสองเสาไฟ

La Fayette ไต้หวันมีความจำเป็นต้องรับบทพระรอง จนกว่าการปรับปรุงครึ่งอายุการใช้งานจะแล้วเสร็จทุกลำภายในปี 2028

คำถาม: วัตถุประสงค์การซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันของจีนคืออะไร?

ว่ากันตามจริง...ขนาดนายพลเรือจีนไม่รู้คำตอบเช่นกัน เพราะเป็นแผนการเร่งด่วนส่งตรงมาจากกรุงปักกิ่ง

ว่ากันว่าเป็นเพียงการแก้เกมไม่ให้ตัวเองดูแย่เกินไป จากกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรอเมริกาเดินทางมาเยือนไต้หวัน รวมทั้งต้องการสร้างความฮึกเหิมให้กับทุกคนในชาติ โดยการแสดงให้เห็นว่ากองทัพเรือจีนสามารถบดขยี้ไต้หวันเมื่อไรก็ได้

ที่สำคัญที่สุดก็คือ...กองทัพเรือจีนทำสำเร็จแล้ว ชนะโดยไม่มีความสูญเสีย!

ภาพใบนี้คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหนือไต้หวัน คนจีนในโลกโซเชียลมีเดียทุกรายล้วนมีภาพใบนี้อยู่ในไอโฟน ไม่เว้นแม้กระทั่งสาวน้อยน่ารักที่ปรกติลงรูปตัวเองไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ สาวๆ พากันรีทวิตภาพใบนี้ด้วยความภาคภูมิใจ ผู้เขียนถึงได้บอกกับทุกคนว่ากองทัพเรือจีนทำสำเร็จแล้ว

ว่าแต่ภาพนี้คืออะไรอย่างนั้นหรือ?

ข้อมูลจากจีนนี่คือภาพถ่ายจากเรือคอร์เวตชั้น Type 056 จับภาพเรือฟริเกตชั้น KNOX ของไต้หวันลอยลำไม่ไกลจากชายฝั่ง โดยมีทหารจีนส่องกล้องทางไกลใส่ฝ่ายตรงข้ามด้วยใบหน้าเรียบเฉย ประหนึ่งว่าเรือลำนี้กำลังลอยลำอยู่ในน่านน้ำตัวเอง

ชาวจีนบางรายคำนวณจากโปรแกรมแผนที่ดาวเทียมก่อนลงข้อมูลว่า เรือรบจีนอยู่ห่างจากเกาะไต้หวันแค่เพียง 11.78 กิโลเมตร! ชาวจีนบางรายใช้ดินสอกับกระดาษขาวอีกครึ่งแผ่น คำนวณด้วยสายตากับสูตรคณิตศาสตร์ก่อนลงข้อมูลว่า เรือจีนอยู่ห่างจากเกาะไต้หวันไม่ถึง 9 กิโลเมตร!!!

ด่านทะเลอาณาเขตถูกตีแตกยับเยิน กองทัพเรือจีนสามารถบดขยี้ไต้หวันเมื่อไรก็ได้

ใช่แล้วครับ...ถูกต้องนะครับนี่คือสงคราม Propaganda ประจำปี 2022

ทีนี้เรามาฟังข้อมูลจากฝั่งไต้หวันบ้าง มีคนแย้งว่า 'ภาพประกาศชัยชนะ' ใบนี้ถูกตกแต่งโดยโปรแกรมโฟโต้ช็อป โปรดสังเกตเสาประภาคารบนเกาะเล็กๆ ชื่อ Penghu เกาะนี้อยู่ห่างภูเขา Yushan บนเกาะไต้หวันทิศตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตร เท่ากับว่าเรือจีนหาได้ล่วงล้ำเข้าสู่พื้นที่หวงห้าม

ด่านทะเลอาณาเขตถูกตีแตกหรือไม่ผู้เขียนไม่ทราบ ข้อมูลจากภาพถ่ายใบเดียวไม่เพียงพอในการตัดสินคดี แต่เรือคอร์เวต Type 056 คือหอกข้างแคร่ตัวจริงเสียงจริง จีนมีเรือชั้นนี้หลายสิบลำสภาพใหม่กิ๊กอายุใช้งานแค่ไม่กี่ปี ทยอยส่งเรือเข้ามาตีด่านทุกวันไต้หวันเลือดเข้าตาแน่นอน

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...ไต้หวันมีแผนรับมืออยู่ก่อนแล้ว

Light Frigate Program

แผนรับมือเรือคอร์เวตชั้น Type 056 ของไต้หวันใช้ชื่อว่า 'Light Frigate Program' ตามแผนการพวกเขาจะสร้างเรือรบติดอาวุธ 3 มิติขนาดใกล้เคียงเรือคอร์เวตจีน เพื่อเป็นจ่าฝูงกองเรือตรวจการณ์หน่วยยามฝั่งตัวเอง ทำหน้าที่ปะฉะดะ Type 056 ได้อย่างถึงพริกถึงขิง รวมทั้งเข้าประจำการด่านทะเลอาณาเขตทดแทนเรือฟริเกตชั้น Knox รุ่นเก่า

Light Frigate Program ถูกบรรจุอยู่ในแผนการจัดหาของรัฐบาล พร้อมโครงการเรือดำน้ำ เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เรือคอร์เวตอาวุธนำวิถี เรือฟริเกตรุ่นใหม่ และเรือพิฆาตระบบเอจิส เพียงแต่ลำดับความสำคัญไม่เร่งรีบเท่าไร งบประมาณกองทัพเรือในแต่ละปีก็เลยไม่มีชื่อโครงการนี้

ชมรายละเอียดเรือตามภาพประกอบด้านบน Light Frigate มีระวางขับน้ำปรกติ 1,400 ตัน ยาว 85 เมตร กว้าง 3.1 เมตร กินน้ำลึก 3.1 เมตรไม่รวมโดมโซนาร์ ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2 ตัว ความเร็วสูงสุด 30 นอต ระยะปฏิบัติการไกลสุด  5,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 15 นอต

Light Frigate ไต้หวันมีขนาดใกล้เคียงเรือคอร์เวต Type 056 จีน ฉะนั้นเมื่อเรือประจำการสมควรเรียกว่าเรือคอร์เวต่นกัน ออกแบบง่ายๆ เพื่อให้ราคาสร้างเรือประหยัดที่สุด ระบบอาวุธป้องกันตัวประกอบไปด้วย ปืนใหญ่ 76/62 มม.ป้อมปืนไต้หวัน 1 กระบอกที่หัวเรือ กลางเรือมีแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้เรือรบ Hsing Feng II จำนวน 8 นัด อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน Tien Chien II จำนวน 16 นัด

ข้างปล่องระบายความร้อนเป็นจุดปล่อยเรือเล็กแบบปิดเต็มพื้นที่ หลังคาติดตั้งแท่นยิงระบบเป้าลวงขนาด 130 มม. ถัดไปทางด้านหลังติดตั้งอาวุธชุดใหญ่เพื่อป้องกันตัว มีระบบป้องกันตนเองระยะประชิด Sea Oryx รุ่น 12 ท่อยิงอยู่ตรงกลาง ขนาบสองกราบเรือด้วยปืนกลอัตโนมัติ XTR-101 RWS ขนาด 20 มม.

ที่อยู่ด้านล่างคือท่อยิงตอร์ปิโดเบาปราบเรือดำน้ำแฝดสาม ทำงานร่วมกับโซนาร์ลากท้าย Towed Array Sonar ไม่ทราบรุ่น หรืออาจเป็นรุ่น MODEL 980 ALOFTS ที่เคยซื้อมาใช้งานบนเรือคอร์เวตต้นแบบก็เป็นไปได้ ท้ายเรือมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ขนาด 7 ตัน กับโรงเก็บอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจำนวน 1 ลำ ซึ่งอาจใช้งานภารกิจเสริมปราบทุ่นระเบิดได้ต่างหาก

เรือลำนี้ใช้ระบบอำนวยการรบ Xunlian Project ไต้หวันพัฒนาขึ้นมาเอง ติดตั้งเรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติหน้าตาเหมือน Thales Smart-S Mk2 ไต้หวันอาจซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเองเหมือนกับทูร์เคีย พวกเขาต้องการติดตั้งบนเรือฟริเกตชั้น Kang Ding ปรับปรุงครึ่งอายุการใช้งานด้วยอีก 6 ลำ ส่วนเรดาร์ควบคุมการยิงน่าจะมาจาก Thales เจ้าประจำเช่นเดียวกัน

Light Frigate ถือกำเนิดตั้งแต่ Type 056 เพิ่งสร้างได้เพียงครึ่งหนึ่ง ปัจจุบัน Type 056 ปิดโครงการไปแล้วแต่ Light Frigate ยังไปไม่ถึงไหนเสียที

กองทัพเรือไต้หวันมีงบประมาณจำกัดจำเขี่ย นอกจากโครงการเร่งด่วนต้องทำให้เสร็จเพื่อเร่งเข้าประจำการ ยังต้องเสียเงินก้อนโตในการบำรุงซ่อมแซมเรือพิฆาตกับเรือฟริเกตจากอเมริกา เรือรบติดลูกยาวเหล่านี้อายุมากกว่า 30 ปีทุกลำ ใส่เครื่องยนต์ตัวแรงเหมาะสมกับการวิ่งทางไกลข้ามโลกแข่งกัน แต่ติดเครื่องยนต์ทีไรงบประมาณหล่นหายไปแล้วหลักแสน

นำงบประมาณมาจ่ายค่าเชื้อเพลิงกับค่าซ่อมบำรุงวนเวียนแบบนี้ทุกปี โครงการ Light Frigate ที่สำคัญน้อยกว่าจึงถูกดองเค็มทุกปี ทว่าวันนี้กองทัพเรือและรัฐบาลเล็งเห็นแล้วว่า หอกข้างแคร่ตัวเองจะถูกจัดการอย่างเหมาะสมวิธีไหน ฉะนั้นในปีงบประมาณ 2023 ที่กำลังจะถึงในอีก 2 เดือน Light Frigate Program อาจได้รับการบรรจุเข้าเป็นวาระเร่งด่วนของชาติ

ติ๊งต่างว่าไต้หวันสร้างเรือพร้อมประจำการภายใน 3 ปีกับอีกนิดหน่อย Light Frigate ลำแรกจะได้ปะฉะดะ Type 056 ประมาณต้นปี 2026 ฉะนั้นแล้วเรือฟริเกตชั้น Knox คุณป้ามหาภัย ยังคงต้องลากสังขารออกมาต้อนรับหลานๆ เจอเนอเรชันบูมเมอร์แรงไปอีก 4-6 ปี

ความเห็นส่วนตัว: ไต้หวันต้องเร่งเข็น Light Frigate ลำแรกให้แล้วเสร็จ ไม่จำเป็นต้องติดอาวุธครบถ้วนตามแผนการก็ได้ หากเงินไม่พอตัดระบบปราบเรือดำน้ำทิ้งไปก่อน แค่นี้ก็ล้นลำจนหาทางเดินไปท้ายเรือไม่ได้แล้ว

                             +++++++++++++++++++++++

อ้างอิงจาก

https://twitter.com/stoa1984

 https://m.facebook.com/Modern-Chinese-Warplanes-611223845748378/?fref=ts

 https://twitter.com/stoa1984?t=ryqEe_wFe_O0cwVY7FP8Rw&s=09

 https://twitter.com/RupprechtDeino?t=dfOx0GYiwGRBXTrxhTuflg&s=09&fbclid=IwAR10GC2RGebswHRQwn-zTaWo3xjgJLRKt6Ov6pNI6T0H3Q9Zsc4KCoFAvnE

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น