RTAF seeks B20bn jet fleet budget
* Published: 26/01/2010 at 12:00 AM
The air force is seeking cabinet approval to buy six more Gripen jet fighters and upgrade six F-16 fighters at a combined cost of more than 20 billion baht.
Royal Thai Air Force deputy spokesman Monthon Satchukorn yesterday said a proposal had been submitted to cabinet to buy the Gripens for about 15.4 billion baht and upgrade the F-16 fighters at a cost of about 6.9 billion baht.
The air force hopes the submission will be approved by the cabinet today.
Gp Capt Monthon said the RTAF wanted the cabinet to approve the two projects in principle first so it had enough time to prepare its 2011 fiscal budget, which will be considered in May.
The two projects have been on hold since they were withdrawn from a cabinet meeting in May last year.
Gp Capt Monthon said: "If we cannot buy the Gripen fighters under the 2011 fiscal budget, this will affect the air force's operations planning."
He said the air force originally planned to upgrade 18 F-16 fighters at a cost of more than 20 billion baht.
The project was revised and will now be carried out in three phases of upgrading six F-16 fighters each time at a cost of 6.9 billion baht.
F-16 A/B fighters from Nakhon Sawan-based Wing 4 would be upgraded in the first phase, Gp Capt Monthon said.
"The air force is badly in need of the two projects," he said.
A military source said air force commander Itthaporn Subhawong met Deputy Prime Minister Suthep Thaugsuban on Friday to discuss the two projects.
The source said Mr Suthep reassured ACM Itthaporn the cabinet would approve the projects in principle with the budget arranged and disbursed later.
The air force had hoped to decommission its 12 US-made F-5 E/F fighters, in operation at the Surat Thani-based Wing 7 for 30 years, once it took commission of 12 new Gripen 39 C/D fighter jets.
หลังจากนั้นอีก8เดือนคือในเดือนกันยายน2010 รัฐบาลสหรัฐได้แจ้งต่อสภาคองเกรสในประเด็นการปรับปรุงช่วงครึ่งอายุ (MLU) ของ F-16 ให้กับทอ.ไทย
DSCA หรือ Defense Security Cooperation Agency (สำนักงานความร่วมมือทางทหารและความปลอดภัย) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐที่รับผิดชอบในการขายอาวุธให้กับต่างประเทศ ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 30 กันยายนน 2553 ที่ผ่านมา ในความเป็นไปได้ที่จะขายอุปกรณ์ที่ใช้ในการปรับปรุงในช่วงครึ่งชีวิตหรือ MLU (Mid-Life Upgrade) ให้กับ F-16A/B Block 15 ของกองทัพอากาศไทยทั้ง 18 ลำ ในระยะเวลา 3 ปี มูลค่าสูงสุดราว 700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ กฏหมายของสหรัฐมีเงื่อนไขให้รัฐบาลสหรัฐต้องแจ้งต่อสภาคองเกรสเมื่อรัฐบาล สหรัฐตัดสินใจขายอาวุธให้กับประเทศใดและในสัญญามีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังมิได้หมายความว่าสัญญาถูกลงนามแล้ว โดยถ้าสภถาคองเกรสไม่เห็นด้วยกับการขายนั้น สภาคองเกรสมีเวลา 30 วันในการคัดค้านการขาย (แต่ในประวัติศาสตร์นั้นการคัดค้านขากคองเกรสเกิดขึ้นน้อยมาก) ซึ่งหลังจากช่วง 30 วันไปแล้ว รัฐบาลสหรัฐและประเทศลูกค้าก็สามารถทำการลงนามในสัญญาได้
โดยในการปรับปรุงเครื่องบินครั้งนี้ เป็นการรื้อออกมาทั้งลำแล้วประกอบกับเข้าไปใหม่ด้วยอุปกรณ์ทันสมัยที่ซื้อมาเปลี่ยนประกอบไปด้วย
- ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมภารกิจ (Modular Mission Computer)
- ระบบเรดาร์แบบ APG-68(V)9 Improved Multimode Fire Control Radar - ระบบพิสูจน์ฝ่ายแบบ APX-113 Combined Interrogator and Transponder
- ระบบจัดการสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบ ALQ-213 Electronic Warfare Management System
- ระบบเป้าลวงอัตโนมัติแบบ ALE-47 Countermeasures Dispenser System - อะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุน เอกสาร ข้อมูลทางเทคนิค การฝึกเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์การฝึก และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังบำรุง
Media/Public Contact:
Charles Taylor (703) 601-3859 / Paul Ebner (703) 601-3670
Transmittal No:
10-54
WASHINGTON, September 30, 2010 – The Defense Security Cooperation Agency notified Congress Sept. 29 of a possible Foreign Military Sale to Thailand of a three-phased program to upgrade 18 F-16A/B Block 15 aircraft with the Mid-Life Upgrade (MLU) and associated parts, equipment, and logistical support for a complete package worth approximately $700 million.
The Government of Thailand has requested a possible sale of a three-phased program to upgrade 18 F-16A/B Block 15 aircraft with the Mid-Life Upgrade (MLU). Each phase will upgrade six aircraft over a three-year period, with each phase overlapping by one year. The MLU with Modular Mission Computer includes APG-68(V)9 Radar, APX-113 Combined Interrogator and Transponder, ALQ-213 Electronic Warfare Management System, ALE-47 Countermeasures Dispenser System, spare and repair parts, tools and support equipment, publications and technical data, personnel training and training equipment, U.S. Government and contractor engineering and technical support services, and other related elements of logistics support. The estimated cost is $700 million.
This proposed sale will contribute to the foreign policy and national security of the United States by helping to improve the security of a major non-NATO ally.
Thailand needs this MLU program in order to upgrade its aging F-16 fleet and to increase air sovereignty fighter aircraft effectiveness and interoperability with U.S. forces. The proposed sale will enhance the Royal Thailand Air Force’s capability to conduct day, night, and adverse weather air defense operations. Thailand, which already has F-16s in its inventory, will have no difficulty absorbing these upgrades into its armed forces.
The proposed sale of this equipment and support will not alter the basic military balance in the region.
The prime contractor will be Lockheed Martin Aeronautics Company in Fort Worth, Texas. There are no known offset agreements proposed in connection with this potential sale.
Implementation of this proposed sale will not require the assignment of any additional U.S. Government or contractor representatives to Thailand.
There will be no adverse impact on U.S. defense readiness as a result of this proposed sale.
This notice of a potential sale is required by law and does not mean the sale has been concluded.
วันที่18 ตุลาคม 2010 เครื่องบินF-16จากฝูงบิน403จำนวน1ลำได้ประสบอุบัติเหตุตกระหว่างการฝึกตามปรกติ จึงทำให้เหลือเครื่ิองบินแค่เพียง17ลำ มีการคาดหมายกันว่าจะนำเครื่องบินจากฝูงบิน103จำนวน1ลำโยกมาที่นี่เพื่อปรับปรุงแล้วเข้าประจำการแทน แต่ก็เป็นเพียงการคาดหมายนะครับ
วันที่14กุมภาพันธ์ 2011เครื่องบิน F-16 ADF จากฝูงบิน102จำนวน2ลำประสบอุบัติเหตุระหว่างการซ้อมรบร่วมกับกองทัพอเมริกา
วันที่16กุมภาพันธ์ 2011 รัฐบาลท่านนายกอภิสิทธิ์ได้อนุมัติการปรับปรุงเครื่องบินเฟสแรกเป็นที่เรียบร้อย คิดเป็นมูลค่า6,900ล้านบาท
งัดงบ เฉียด 7 พันล้าน ซ่อม F-16
วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554
ทัพอากาศ ชี้ เป็นตาม แผน ซ่อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์เครื่องบินรบเอฟ 16 ของ กองทัพอากาศตกในที่ประชุม จากนั้นพล.อ.ประวิตร ได้มีการเสนอวาระเพื่อพิจารณาเป็นเรื่องลับ ขออนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการซ่อมแซมและปรับปรุงระบบการบินเครื่อง บินรบเอฟ 16 รุ่น A/B 6 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินรบเอฟ 16 รุ่นเก่า โดยขออนุมัติงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซมและโมดิฟายด์ระบบการบิน พร้อมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องบินรบดังกล่าว
ทั้งนี้ ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้นกว่า 6,900 ล้านบาท แยกเป็นค่าปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องบินพร้อมอุปกรณ์กว่า 6,562 ล้านบาทและอาคารประกอบโรงซ่อมกว่า 300 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายปี 2554 พร้อมทั้งขอผูกพันงบประมาณ 3 ปีตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2556 ซึ่งที่ประชุมครม.ก็อนุมัติให้ไปตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ขณะเดียวกันด้าน พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงกรณี ครม.อนุมัติงบประมาณ เพื่อปรับปรุงสมรรถนะเครื่องบินเอฟ 16 เป็นไปตามพระราชบัญญัติ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย โดยเรื่องดังกล่าวเป็นงบที่ ครม.ได้อนุมัติ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2553 ดังนั้น ทอ. จึงได้เสนอครม.ตามโครงการ ตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ซึ่งทางครม.ได้อนุมัติงบตามที่ร้องขอให้สามารถก่อหนี้งบผูกพันงบประมาณได้
ขณะที่ มูลค่าเงินที่สูง ทอ.จึงได้แบ่งการปรับปรุงเครื่องบินเอฟ 16 เป็น 3 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ดำเนินการ ระยะเวลาปี 2554-2556/ช่วงที่ 2 ในปี 2556-2558 /ช่วงที่ 3 ในปี 2558-2560
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ทอ.ได้ดำเนินการเจรจากับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการปรับปรุงเอฟ 16 ด้วยระบบ การจัดซื้อขายอาวุธระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลสหรัฐด้วยระบบ(FOREIGN MILITARY SALES) หรือเอฟเอ็มเอส เพื่อปรับปรุงเครื่องบินเอฟ 16 จำนวน 3 ช่วง ครั้งละ 6 ลำ โดยช่วงที่ 1 ใช้งบประมาณ 6,900 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อครม.ได้อนุมัติงบประมาณแล้วก็สามารถดำเนินการจัดจ้างปรับปรุงเครื่อง บินเอฟ 16 ได้ทัน โดยทางทอ.สหรัฐได้ตกลงที่จะดำเนินการปรับปรุงให้เครื่องบินเอฟ 16 ให้ประเทศไทยแล้ว
ทั้งนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังได้รายงานสรุป ถึงเหตุการณ์เครื่องบินขับไล่รุ่น F16 2 ลำ ตกระหว่างการฝึกร่วมคอบร้าโกลด์ ที่ จ.ชัยภูมิ โดยเครื่องบินรุ่นที่ตก รุ่น ADF ปี 2545 เป็นเครื่องเก่าผ่านการปรับปรุง ส่วนสาเหตุนั้นเป็นอุบัติเหตุระหว่างการฝึกบิน ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว
หลังครม.อนุมัติงบประมาณเฟสแรกจำนวน6.900ล้านบาทไปแล้วอีก1ปีนิดๆถึงมี ความเคลื่อนไหว เดือนมีนาคม2012 บริษัท Northrop Grumman ขายเรดาร์AN/APG-68v9ให้ประเทศไทยจำนวน6ชุดตามโครงการFMS หมายเลข FA8615-12-C-6047 ซึ่งในดีลนี้จะรวมกับประเทศอื่นๆด้วย ถ้าว่ากันตรงก็คือเรดาร์สำหรับF-16 เฟสแรกจำนวน6ลำนั่นเอง
March 14/12: Radars. Northrop Grumman Electronic Systems in Linthicum Heights, MD receives an $87.8 million dollar firm-fixed-price Foreign Military Sales (FMS) program contract, to provide 43 AN/APG-68v9 radar systems to the Republic of Iraq (22), the Royal Air Force of Oman (15), and the Royal Thai Air Force (6). The 6 Thai radars are enough to cover 1 phase of the 3-phase F-16 modernization program (vid. Sept 30/10 entry).
The AN/APG-68v9 is the standard radar for new F-16C/D aircraft. Northrop Grumman cites external link a 33% increase in air-to-air detection range over earlier versions, plus ground-looking synthetic aperture radar with mapping and 2-foot point target response. They also claim that the radar’s reduced weight, power, and cooling help contribute to 25%-45% lower support costs, though their baseline comparison for those costs isn’t clear.
Work will be performed in Linthicum Heights, MD, and is expected to be complete by March 3/15. The ASC/WWMK at Wright Patterson AFB, OH manages this contract (FA8615-12-C-6047).
ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2012 พล.อ.อ.มานิต สพันธุพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด รับเอกสารประจำเครื่อง บ.F-16 จากนาวาอากาศเอก กฤษฎา สุพิชญ์ ผู้บังคับการกองบิน 4 ในพิธีส่งมอบ บ.F-16 เครื่องแรกเข้ารับการปรับปรุงขีดความสามารถตามโครงการ F-16 Mid Life Update โดยมีตัวแทนจากกองทัพอากาศ บริษัท Lockheed Martin Aero และบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด เข้าร่วมพิธี ณ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานตาคลี บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด จ.นครสวรรค์
วันที่ 12 มีนาคม.2013ก็มีข่าวดีอีกครั้งเมื่อครม.อนุมัติเฟส2เป็นที่เรียบร้อย ถึงตอนนี้เครื่องบิน6ลำของเราเข้ารับการปรับปรุงอยู่แต่ยังไม่แล้วเสร็จ น่ายินดีที่การปรับปรุงทั้งหมดทำภายในประเทศ จึงเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงบ้างและคนของเราได้รับความรู้ใหม่ๆมากขึ้น
ครม.อนุมัติ5.9ล้านบาท อัพเกรดF-16 เอ/บี เฟสสอง
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณพัฒนาศักยภาพเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 วงเงิน 5,700 ล้านบาท...
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2013 พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณผูกพันข้ามปี 2556-2558 โครงการพัฒนาขีดความสามารถเครื่องบินแบบ 19 ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาขีดความสามารถเครื่องบินขับไล่ เอฟ -16 เอ/บี ระยะที่ 2 วงเงิน 5,700 ล้านบาท ตามที่กองทัพอากาศ โดยกระทรวงกลาโหมเป็นผู้เสนอ
สำหรับโครงการดังกล่าวถือเป็นแผนงานระยะยาวในการพัฒนายืดอายุการใช้งาน ของเครื่องบินรบที่ประจำการที่ฝูงบิน 403 กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และที่กองทัพอากาศได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในภาพรวมเมื่อปี 2554 เพื่อ MLU (Mid-life update) เครื่องบินรุ่นดังกล่าว จำนวน 1 ฝูง 18 ลำ ทั้งนี้ถือเป็นโครงการต่อเนื่องที่ต้องใช้งบประมาณผูกพันข้ามปี ซึ่งตามระเบียบแล้วหากวงเงินเกินกว่า 1 พันล้านบาท ต้องขอความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
โดยคณะรัฐมนตรีในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการรวมงบประมาณ 19,000 ล้านบาท ซึ่งระยะแรกใช้งบประมาณปี 54-56 จำนวน 6 ลำ จำนวน 6,900 ล้านบาท ในครั้งนี้เป็นการอนุมัติในระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 56-58 อีก 6 ลำ จำนวน 5,900 ล้านบาท และจะเสนอในระยะที่ 3 อีก 6 ลำในปีงบประมาณ 58-60 ทั้งนี้กองทัพอากาศได้ว่าจ้างบริษัท TAI ให้ดำเนินการปรับปรุงภายใต้โครงการ MLU จำนวน 18 ลำ โดยการดำเนินงานอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Lockheed Martin ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ให้กับ TAI
พล.อ.ต.มณฑล กล่าวว่า ตามรายละเอียดของเอกสารที่แจ้งต่อสภาคองเกรสระบุว่า กองทัพอากาศไทยร้องขอการขายชุดอุปกรณ์ในการทำ MLU ให้กับ เอฟ -16 เอ/บี ทั้ง 18 ลำ โดยการดำเนินงานจะแบ่งการลงนามในสัญญาเป็น 3 เฟส เฟสละ 1 ปี รวมมูลค่าทั้งหมด 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีรายนามอุปกรณ์ที่แจ้งต่อคองเกรส เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมภารกิจ, ระบบเรดาร์แบบ APG-68(V)9 , ระบบพิสูจน์ฝ่าย, ระบบจัดการสงครามอิเล็กทรอนิกส์, ระบบเป้าลวงอัตโนมัติ, อะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุน เอกสาร ข้อมูลทางเทคนิค การฝึกเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์การฝึก และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังบำรุง.
วันที่10 มิถุนายน 2013 Northrop Grumman ขายเรดาร์AN/APG-68v9ให้ประเทศไทยจำนวน16ชุดตามโครงการFMS หมายเลข FA8615-13-C-6018 ถ้านับตามรายการจะเห็นว่าเราสั่งเรดาร์ไปแล้ว6ตัวสำหรับเฟสแรก และมีการนำเครื่องทยอยเข้ารับการปรับปรุงแล้วเช่นกัน และในเฟสที่2มีการสั่งเรดาร์16ชุด(รวมเรดาร์ทั้งหมดจำนวน22ชุด) แต่เราเหลือเครื่องบินที่จะเข้ารับการปรับปรุงอีกแค่เพียง12ลำ(รวมทั้งหมด18ลำ)นั่นหมายถึงมีเกินมาเป้นจำนวน4ชุด อาจเป็นได้ว่าสั่งมาไว้เป็นอะไหล่หรืออาจจะนำไปติดเพิ่มเติมกับเครื่องบินF-16ที่ยังเหลืออยู่ ข้อมูลตรงนี้ไม่แน่ใจเลยต้องขอตรวจสอบให้นานกว่านี้ก่อนครับ
June 10/13: Radars. Northrop Grumman Electronic Systems in Linthicum Heights, MD receives a maximum $115 million firm-fixed-price contract to provide 38 AN/APG-68(V)9 radar systems: 16 for the Royal Thai Air Force and 22 for the Republic of Iraq. This foreign military sale also includes spares for F-16 operators Egypt, Morocco, and Pakistan.
The 16 radars seems to cover the next 2 phases of Thailand’s modernization program, and leads one to wonder the 2-plane Feb 14/11 crash (q.v.) brought eligible F-16 numbers down from 18 to 16, or if Thailand is stopping short of 18 for other reasons.
This is a sole-source buy, as it must be, and $51.4 million is committed immediately. Work will be performed in Linthicum, MD, and is expected to be complete by Dec 20/17. The USAF Life Cycle Management Center/WWMK at Wright-Patterson AFB, OH, acts as the FMS agent for these orders (FA8615-13-C-6018).
อุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งในการปรับปรุงก็คือเรดาร์ AN/APG-68(V)9 ซึ่งจะเป็นหนึ่งในระบบเรดาร์ที่ทันสมัยที่ สุดของกองทัพอากาศไทย โดยเรดาร์แบบ APG-68(V)9 นั้นมีระบบสร้างภาพความละเอียดสูงของพื้นดิน (Synthetic Aperture Radar: SAR) เพิ่มพิสัยในการตรวจจับให้มากขึ้นอีก 33% และลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการลง 25% - 45% เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติการเป็นอย่างมากแล้ว ยังทำให้ F-16 จากฝูง 403 ของกองทัพอากาศไทยที่จะเข้ารับการปรับปรุงช่วงครึ่งชีวิตนี้สามารถใช้อาวุธ ปล่อยที่ทันสมัยได้หลายแบบขึ้น
The AN/APG-68 radar is a long range (up to 296 km)[1] Pulse-doppler radar designed by Westinghouse (now Northrop Grumman) to replace AN/APG-66 radar in the F-16 Fighting Falcon. The AN/APG-68(V)9 radar system consists of the following line-replaceable units:
Antenna
Modified Dual Mode Transmitter (MDT)
Modular Receiver/Exciter (MoRE)
Common Radar Processor (CoRP)
Specifications
Frequency: Starting Envelope frequency around 9.86 GHz.
Under AIS Testing as high as 26 GHz
Range: 296.32 km, 184 miles
Search cone: 120 degrees × 120 degrees
Azimuth angular coverage: ±10 degrees / ± 30 degrees / ± 60 degrees
จนถึงวันที่เขียน(28ธันวาคม2013)ยังไม่มีภาพเครื่องบินที่ปรับปรุงเสร็จแล้วหลุดออกมาซักลำ จึงยังไม่แน่ใจว่าเฟสแรก6ลำเสร็จไปแล้วมากน้่อยแค่ไหน ถ้าโครงการนี้มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมผมจะนำข้อมูลมาใส่เพิ่มให้นะครับ ขอบคุณที่ติดตามสวัสดีปีใหม่ที่แสนหนาวเหน็บ
http://www.thaiarmedforce.com/taf-military-news/55-rtaf-news/193-f16-mlu-update-oct-2010.html
http://http://news.mthai.com/headline-news/103620.html
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=warfighter&month=28-03-2008&group=1&gblog=7
http://www.bangkokpost.com/news/local/31734/rtaf-seeks-b20bn-jet-fleet-budget
http://www.dsca.mil/sites/default/files/mas/thailand_10-54_0.pdf
http://www.defenseindustrydaily.com/thailand-moving-to-upgrade-its-f-16-fleet-06597/
http://www.taithailand.com/News/News2012/news13112012.html
http://www.thairath.co.th/content/pol/331994
http://www.thaiarmedforce.com/taf-military-news/55-rtaf-news/534-first-f-16-go-to-mlu.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น