วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568

Multi-Role Helicopter Dock Ship (MHD 150)

 

ระหว่างปี 2006 บริษัท ThyssenKrupp Marine Systems หรือ TKMS ประเทศเยอรมันเปิดตัวแบบเรือใหม่ล่าสุด เป็นได้ทั้งเรือทำการรบในเขตใกล้ฝั่งและเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบ โดยใช้ระบบ MEKO modular system อันแสนโด่งดังช่วยพัฒนาแบบเรือ กระทั่งได้เรือรูปร่างหน้าตาคล้ายลูกเป็ดขี้เหร่ในภาพประกอบที่หนึ่ง

MHD 150

MHD 150 ระวางขับน้ำประมาณ 15,000 ตัน ยาว 182 เมตร กว้าง 26.5 เมตร กินน้ำลึก 6 เมตร ใช้เครื่องยนต์ดีเซลบวกมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบขับเคลื่อน ความเร็วสูงสุด 22 นอต ระยะปฏิบัติการไกลสุด 8,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 15 นอต ใช้ลูกเรือเพียง 94 นาย ใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินอีก 56 นาย บนเรือมีพื้นที่ว่างสำหรับนาวิกโยธินจำนวน 750 นาย

รูปทรงเรือคล้ายเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบชั้น San Giorgio กองทัพเรืออิตาลี โดยมีหัวเรือปรกติกับดาดฟ้าเรือใช้เป็นจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์ ให้บังเอิญ MHD 150 มีทั้งโรงเก็บอากาศยานและโรงเก็บยานพาหนะซ้อนกันสองชั้น สะพานเดินเรือกับดาดฟ้าหลักอยู่สูงกว่าหัวเรือพอสมควร ผู้อ่านหลายคนนึกอยากหักคะแนนความสวยความงาม บอกตามตรงผู้เขียนก็หักคะแนนเช่นกัน เพราะเรือมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างประหลาดเทียบกับคู่แข่งไม่ได้ แต่แล้วในท้ายที่สุดผู้เขียนกลับเลือกเรืออเนกประสงค์ทรงประสิทธิภาพลำนี้เขียนบทความ เมื่ออ่านเรื่องราวครบถ้วนทุกตัวอักษรคาดว่าผู้อ่านน่าจะเข้าใจความหมายชัดเจน

การสร้างเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบสักหนึ่งลำ หัวใจสำคัญคือการออกแบบภายในพื้นที่ใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสม บริษัท TKMS แสดงข้อมูลการออกแบบในภาพประกอบที่สอง สีเขียวคือสะพานเดินเรือ ห้องควบคุมอากาศยาน และห้องยุทธการ สีแดงคือห้องพักลูกเรือ สีน้ำเงินคือห้องพักนาวิกโยธิน สีเหลืองคือโรงเก็บอากาศยาน สีม่วงคือโรงเก็บยานพาหนะ สีฟ้าคืออู่ลอยสำหรับจอดเรือระบายพล ปิดท้ายด้วยสีส้มคือห้องเครื่องจักร แสดงการจัดพื้นที่ภายในเรืออย่างเป็นระเบียบถูกต้องเหมาะสม

ภาพประกอบที่สามภาพล่างคือดาดฟ้าลานบินซึ่งแบ่งเป็นสองชั้น ดาดฟ้าหลักหรือ Flight Deck อยู่บนชั้นบนติดกับสะพานเดินเรือ มีจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์จำนวน 5 จุด เชื่อมโยงกับโรงเก็บอากาศยานด้วยลิฟต์อเนกประสงค์จำนวน 1 ตัว (สีแดง) โดยมีเครนอเนกประสงค์ขนาด 30 ตันติดตั้งอยู่ที่กราบขวาท้ายลานจอดหลัก สำหรับยกตู้คอนเทนเนอร์ อากาศยานชนิดต่างๆ ยานพาหนะชนิดต่างๆ รวมทั้งเรือเล็กชนิดต่างๆ

ส่วนดาดฟ้ารองมีชื่อเรียกว่า Multi-Purpose Deck มีจุดบินขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่จำนวน 1 จุด เชื่อมโยงกับโรงเก็บอากาศยานซึ่งอยู่ชั้นเดียวกันด้วยประตูบานใหญ่ อารมณ์คล้ายเรือพิฆาตหรือเรือฟริเกตยังไงยังงั้น เหตุผลที่ออกแบบดาดฟ้ารองให้เตี้ยระดับเดียวกับโรงเก็บอากาศยานนั้นมีอยู่ว่า สามารถใช้จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตจำนวนมหาศาล โดยใช้เครนอเนกประสงค์ขนาด 30 ตันในการยกขึ้นยกลง ส่งผลให้เรือทำภารกิจลำเลียงสินค้าหรืออุปกรณ์จำนวนมากได้ไม่แพ้เรือสินค้าลำจริง

ภาพประกอบที่สามภาพบนคือโรงเก็บอากาศยานอยู่ถัดจากดาดฟ้าหลัก (ระดับเดียวกับดาดฟ้ารอง) ใช้จอดเฮลิคอปเตอร์ขนาด 10 ตันแบบหลวมๆ ได้ถึง 9 ลำ (ถ้าจอดแบบเบียดๆ ได้ 10 ลำพอดิบพอดี) มีลิฟต์อเนกประสงค์เชื่อมโยงระหว่างดาดฟ้าหลักลงไปถึงโรงเก็บยานพาหนะ เจ้าของเรือนำรถหุ้มเกราะ รถบรรทุก หรืออะไรก็ตามขึ้นมาจัดเก็บบนดาดฟ้าหลักร่วมกับอากาศยาน โดยมีออปชันเสริมจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตในโรงเก็บยานพาหนะได้ แต่ลูกค้าต้องติดตั้งเครนหลังคาสำหรับยกตู้คอนเทนเนอร์ไปจัดเก็บ เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับแบบเรือจากประเทศเยอรมัน โดยไม่รบกวนที่พักลูกเรือหรือที่พักนาวิกโยธินบริเวณหัวของเรือ

ภาพประกอบที่สี่แสดงการติดระบบเรดาร์และอาวุธ หัวเรือมีจุดติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 76 มม.จำนวน 1 กระบอก รอบเรือมีจุดติดตั้งปืนกลอัตโนมัติจำนวน 6 จุด หน้า-หลังสะพานเดินเรือมีจุดติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่งสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยานจำนวน 2 จุด 16 ท่อยิง เรือสามารถติดตั้งเรดาร์ตรวจการณ์ 2 มิติกับ 3 มิติพร้อมกัน ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์มีครบถ้วนไม่แพ้เรือรบลำไหน การป้องกันตัวเองถือว่าดียอดเยี่ยมกว่าเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบทั่วไป

แบบเรือ MHD 150 ได้รับความสนใจจากกองทัพเรือแอฟริกาใต้ ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยจัดหาเรือฟริเกต MEKO A-200 จำนวน 4 ลำกับเรือดำน้ำ Type 210 จำนวน 3 ลำจากเยอรมันมาใช้งาน มีการนำเสนอข้อมูลและราคาเรือโดยบริษัท TKMS และมีแนวโน้มว่าจะสามารถขายเรือได้จำนวนหนึ่งลำ แต่แล้วในท้ายที่สุดโครงการนี้กลับล่มสลายกลางทาง รัฐบาลแอฟริกาใต้ไม่สนับสนุนงบประมาณด้วยเหตุผลมากมาย ลูกเป็ดขี้เหร่จากเมืองเบียร์พลอยไม่ได้แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการเสียที

จุดอ่อนสำคัญที่ผู้เขียนพบบนแบบเรือ MHD 150 ก็คือ จุดติดตั้งลิฟต์อเนกประสงค์อยู่ในตำแหน่งไม่เหมาะสม และอาจส่งผลรบกวนการบินขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ในจุดที่สี่

MHD 200

        ในงาน IMDEX Asia Exhibition 2009 ประเทศสิงคโปร์ บริษัท TKMS ประเทศเยอรมันเปิดตัวแบบเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบ MHD 200 เป็นครั้งแรก โดยนำแบบเรือ MHD 150 มาขัดเกลาให้ลงตัวมากกว่าเดิม สร้างหัวเรือสูงใหญ่ใช้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์แบบเต็มพื้นที่ ความขี้เหร่ที่เคยรบกวนจิตใจได้พลันเลือนหายในชั่วพริบตา

MHD 200 ระวางขับน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตัน ยาว 190 เมตร กว้าง 28 เมตร ความเร็วสูงสุด 22 นอต ระยะปฏิบัติการไกลสุด 8,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 15 นอต ออกทะเลได้นานสุด 42 วัน มีจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์จำนวน 6 จุดเท่าเดิม โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์รองรับอากาศยานมากสุด 11 ลำ มาพร้อมเครนอเนกประสงค์ขนาด 30 ตัน เรือระบายพลขนาดเล็กจำนวน 2 ลำ เรือระบายพลขนาดกลางจำนวน 2 ลำ และดาดฟ้ารองหรือ Multi-Purpose Deck บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตพร้อมกันมากถึง 54 ใบ

บริษัท TKMS ให้ข้อมูลว่าแบบเรือ MHD 200 สามารถบรรทุกนาวิกโยธินมากสุด 2,000 นาย หรือปรับเปลี่ยนเป็นเรือพยาบาลรองรับผู้ป่วยจำนวน 120 เตียง มีจุดติดตั้งระบบป้องกันตัวเองระยะประชิดจำนวน 2 จุด กับจุดติดตั้งปืนกลอัตโนมัติจำนวน 4 จุด รองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายมากกว่าเดิม โดยมีราคาเรือเพียง 150 ล้านยูโรหรือ 189 ล้านเหรียญไม่รวมระบบอำนวยการรบ

แบบเรือ MHD 200 มีความสวยงามและใหญ่โตมากขึ้น แต่ต้องแลกกับจุดติดตั้งอาวุธป้องกันตัวจำนวนลดลง จำเป็นต้องพึ่งพาเรือฟริเกตในการปกป้องคุ้มครองภัย

จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีลูกค้าแสดงความสนใจแบบเรือ MHD 200

MESHD

        หลังเปิดตัวแบบเรือ MHD 200 ใหม่เอี่ยมอ่องได้เพียงไม่นาน บริษัท TKMS เร่งเดินหน้าโครงการ Multi-role Expeditionary Support Helicopter Dock โดยนำแบบเรือ MHD 150 รูปทรงแปลกประหลาดเป็นสารตั้งต้น ในการพัฒนาเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบรุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิมใช้ชื่อว่า MESHD

เรือมีระวางขับน้ำระหว่าง 19,600 ถึง 23,800 ตัน ยาว 195.7 เมตร กว้าง 33.2 เมตร กินน้ำลึก 6.5 ถึง 7.5 เมตร ใช้เครื่องยนต์ดีเซลบวกมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบขับเคลื่อน ความเร็วสูงสุด 22 นอต ระยะปฏิบัติการไกลสุด 8,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 15 นอต ใช้ลูกเรือเพียง 94 นาย ใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินอีก 56 นาย ขยายพื้นที่ใช้งานในเรือจนมีขนาด 10,600 ตารางเมตร มีการย้ายลิฟต์อเนกประสงค์จากกราบซ้ายมาอยู่กราบขวา การใช้งานจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์หมายเลขสี่กับหมายเลขห้าพลอยดีขึ้นตามกัน

แบบเรือ MESHD เปรียบได้กับนำแบบเรือ MHD 150 มาแช่น้ำมันก๊าดขยายร่าง ปรับปรุงปล่องระบายความร้อนจากขนาดใหญ่หนึ่งจุดเปลี่ยนเป็นขนาดเล็กสองจุด หลายสิ่งหลายอย่างดีขึ้นกว่าเดิมชนิดเทียบกันไม่ได้ บังเอิญจุดตั้งอาวุธป้องกันตัวถูกถอดออกเกือบทั้งหมด เหมาะสมกับชาติใหญ่มีเรือฟริเกตติดอาวุธ 3 มิติตามปกป้องคุ้มภัยตลอดเวลา หากเป็นชาติเล็กชาติน้อยใช้เรือฟริเกตรุ่นเดอะภาระมีแนวโน้มจะวอดวายทั้งกองเรือ

จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีลูกค้าแสดงความสนใจแบบเรือ MESHD

MHD 150 for RTN

        วันที่ 30 กันยายน 2025 เสี่ยหนูเดินทางมาเยี่ยมกองทัพเรือถึงสัตหีบ มีการบรรยายข้อมูลเขี้ยวเล็บแหลมคมให้ผู้มาเยือนรับ ทันทีที่ทราบว่าเรือหลวงจักรีนฤเบศรอายุอานามมากถึง 28 ปี เสี่ยหนูเผลออุทานคำว่า คุณพระคุณเจ้า!’ เขาเริ่มแสดงอาการกลุ้มอกกลุ้มใจผ่านสีหน้าแววตา ก่อนระบายความรู้สึกให้ลูกประดู่ไทยมากมายได้รับรู้โดยถ้วนหน้า

        ข้าพเจ้าในฐานะผู้นำคนใหม่ให้สัญญาว่า ข้าพเจ้าจะจัดสรรงบประมาณซื้อเรือธงลำใหม่แทนที่เรือเก่า รบกวนพวกท่านขึ้นโครงการจัดหาเรือขนาดถูกต้องเหมาะสมให้เร็วที่สุด

         วันที่ 1 ตุลาคม 2025 ราชนาวีไทยประกาศจัดหาเรือยกพลขึ้นบกอเนกประสงค์ขนาดไม่เกิน 20,000 ตันจำนวน 1 ลำ มีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้าร่วมโครงการมากหน้าหลายตา หนึ่งในนั้นคือบริษัทมาร์ซันจับมือกับบริษัท TKMS ประเทศเยอรมัน นำเสนอแบบเรือ MHD 150T รุ่นปรับปรุงใหม่สำหรับราชนาวีไทยโดยเฉพาะตามภาพประกอบสุดท้าย

รูปร่างหน้าตายังคงลักษณะขี้เหร่เหลือกำลังเหมือนเก่า มีการปรับปรุงพื้นที่ใช้งานภายในเรือให้ทันสมัยมากขึ้น แล้วย้ายลิฟต์อเนกประสงค์จากกราบซ้ายมาอยู่กราบขวา ในภาพประกอบแสดงการบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตจำนวน 54 ใบบนดาดฟ้ารองหรือ Multi-Purpose Deck โดยมีเฮลิคอปเตอร์จำนวน 3 รุ่นทั้ง Chinook ขนาดใหญ่ Seahawk ขนาดกลาง และ Superlynx 300 ขนาดเล็กสุดสามารถลงจอดบนเรือได้

ระบบอาวุธป้องกันตัวมาแบบจัดแน่นจัดเต็ม หัวเรือติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่ง Mk41 จำนวน 8 ท่อยิง สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ESSM จำนวน 32 นัด มาพร้อมระบบป้องกันตัวเองระยะประชิด Millennium Gun จำนวน 2 ระบบ กับปืนกลอัตโนมัติขนาด 20 มม.รุ่น Searanger จำนวน 4 กระบอก สามารถป้องกันตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเรือลำอื่น ยกเว้นกรณีมีเรือดำน้ำเข้ามาเพ่นพ่านบริเวณสถานที่ยกพลขึ้นบก

ผู้อ่านอาจนึกสงสัยว่าการใช้งานอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ESSM จะรบกวนการบินขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์บริเวณหัวเรือมากน้อยแค่ไหน คำตอบก็คือแทบไม่รบกวนการบินขึ้นลงเลยสักนิด เพราะเรือออกแบบให้จุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์อยู่กราบซ้าย ส่วนสะพานเดินอยู่กราบขวา เวลาลงจอดเฮลิคอปเตอร์ต้องเข้าทางด้านหลังฝั่งซ้าย เวลาบินขึ้นต้องออกทางด้านหน้าฝั่งซ้าย ป้องกันใบพัดเฮลิคอปเตอร์ฟาดสะพานเดินเรือเพราะสู้กระแสลมไม่ได้ เท่ากับว่าการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ESSM ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานเรือ

MHD 150T ติดตั้งระบบอำนวยการรบ 9LV Mk4 มาพร้อมเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศระยะไกล Sea Giraffe 4A กับเรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำระยะใกล้ Sea Giraffe 1X มีเรดาร์ควบคุมการยิง CEROS 200 จำนวน 2 ตัว มีออปโทรนิกส์ควบคุมการยิง EOS 500 อีก 1 ตัว ใช้ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์กับระบบเป้าลวงเหมือนเรือหลวงตากสิน ส่งผลให้เรือมีความพร้อมรบเทียบเท่าเรือฟริเกตติดอาวุธ 3 มิติแห่งราชนาวีไทย

สี่เดือนถัดมากองทัพเรือประกาศให้แบบเรือ MHD 150T คือผู้ชนะโครงการ มาร์ซันกับ TKMS ได้สัญญาสร้างเรือระยะเวลา 4 ปี หนึ่งชั่วโมงถัดมามีการเดินทางไปพบท่านผู้นำคนใหม่ เพื่อแจ้งข่าวดีและถือโอกาสทวงงบประมาณตามคำมั่นสัญญา ให้บังเอิญขบวนรถยังเดินทางไม่ถึงที่หมาย เสี่ยหนูประกาศยุบสภาตามคำมั่นสัญญาที่มีต่อเสี่ยเท้งเสียก่อน โครงการจัดหาเรือขนาดถูกต้องเหมาะสมจึงถูกดองเค็มโดยความไม่ตั้งใจ

เรือธงลำใหม่แห่งราชนาวีไทยลอยเท้งเต้งไปโผล่ที่ไหนไม่มีใครรู้

อ้างอิงจาก

 

https://www.globalsecurity.org/military/world/europe/mhd.htm

www.shibucket.com

http://www.mdc.idv.tw/mdc/navy/euronavy/mhd-mrd.htm


 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น