ระหว่างปี 2006
บริษัท ThyssenKrupp
Marine Systems หรือ TKMS
ประเทศเยอรมันเปิดตัวแบบเรือใหม่ล่าสุด เป็นได้ทั้งเรือทำการรบในเขตใกล้ฝั่งและเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบ
โดยใช้ระบบ MEKO modular
system อันแสนโด่งดังช่วยพัฒนาแบบเรือ
กระทั่งได้เรือรูปร่างหน้าตาคล้ายลูกเป็ดขี้เหร่ในภาพประกอบที่หนึ่ง
MHD 150
MHD 150 ระวางขับน้ำประมาณ
15,000
ตัน ยาว 182 เมตร กว้าง 26.5 เมตร กินน้ำลึก 6 เมตร
ใช้เครื่องยนต์ดีเซลบวกมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบขับเคลื่อน ความเร็วสูงสุด 22 นอต ระยะปฏิบัติการไกลสุด 8,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว
15 นอต ใช้ลูกเรือเพียง 94 นาย ใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินอีก
56 นาย บนเรือมีพื้นที่ว่างสำหรับนาวิกโยธินจำนวน 750 นาย
รูปทรงเรือคล้ายเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบชั้น San Giorgio
กองทัพเรืออิตาลี โดยมีหัวเรือปรกติกับดาดฟ้าเรือใช้เป็นจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์
ให้บังเอิญ MHD 150 มีทั้งโรงเก็บอากาศยานและโรงเก็บยานพาหนะซ้อนกันสองชั้น สะพานเดินเรือกับดาดฟ้าหลักอยู่สูงกว่าหัวเรือพอสมควร
ผู้อ่านหลายคนนึกอยากหักคะแนนความสวยความงาม บอกตามตรงผู้เขียนก็หักคะแนนเช่นกัน
เพราะเรือมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างประหลาดเทียบกับคู่แข่งไม่ได้
แต่แล้วในท้ายที่สุดผู้เขียนกลับเลือกเรืออเนกประสงค์ทรงประสิทธิภาพลำนี้เขียนบทความ
เมื่ออ่านเรื่องราวครบถ้วนทุกตัวอักษรคาดว่าผู้อ่านน่าจะเข้าใจความหมายชัดเจน
การสร้างเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบสักหนึ่งลำ
หัวใจสำคัญคือการออกแบบภายในพื้นที่ใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสม บริษัท TKMS
แสดงข้อมูลการออกแบบในภาพประกอบที่สอง สีเขียวคือสะพานเดินเรือ ห้องควบคุมอากาศยาน
และห้องยุทธการ สีแดงคือห้องพักลูกเรือ สีน้ำเงินคือห้องพักนาวิกโยธิน
สีเหลืองคือโรงเก็บอากาศยาน สีม่วงคือโรงเก็บยานพาหนะ
สีฟ้าคืออู่ลอยสำหรับจอดเรือระบายพล ปิดท้ายด้วยสีส้มคือห้องเครื่องจักร แสดงการจัดพื้นที่ภายในเรืออย่างเป็นระเบียบถูกต้องเหมาะสม
ภาพประกอบที่สามภาพล่างคือดาดฟ้าลานบินซึ่งแบ่งเป็นสองชั้น ดาดฟ้าหลักหรือ Flight
Deck อยู่บนชั้นบนติดกับสะพานเดินเรือ มีจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์จำนวน
5 จุด เชื่อมโยงกับโรงเก็บอากาศยานด้วยลิฟต์อเนกประสงค์จำนวน
1 ตัว (สีแดง) โดยมีเครนอเนกประสงค์ขนาด 30 ตันติดตั้งอยู่ที่กราบขวาท้ายลานจอดหลัก สำหรับยกตู้คอนเทนเนอร์
อากาศยานชนิดต่างๆ ยานพาหนะชนิดต่างๆ รวมทั้งเรือเล็กชนิดต่างๆ
ส่วนดาดฟ้ารองมีชื่อเรียกว่า
Multi-Purpose
Deck มีจุดบินขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่จำนวน 1 จุด เชื่อมโยงกับโรงเก็บอากาศยานซึ่งอยู่ชั้นเดียวกันด้วยประตูบานใหญ่
อารมณ์คล้ายเรือพิฆาตหรือเรือฟริเกตยังไงยังงั้น
เหตุผลที่ออกแบบดาดฟ้ารองให้เตี้ยระดับเดียวกับโรงเก็บอากาศยานนั้นมีอยู่ว่า
สามารถใช้จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตจำนวนมหาศาล
โดยใช้เครนอเนกประสงค์ขนาด 30 ตันในการยกขึ้นยกลง
ส่งผลให้เรือทำภารกิจลำเลียงสินค้าหรืออุปกรณ์จำนวนมากได้ไม่แพ้เรือสินค้าลำจริง
ภาพประกอบที่สามภาพบนคือโรงเก็บอากาศยานอยู่ถัดจากดาดฟ้าหลัก
(ระดับเดียวกับดาดฟ้ารอง) ใช้จอดเฮลิคอปเตอร์ขนาด 10 ตันแบบหลวมๆ ได้ถึง 9 ลำ (ถ้าจอดแบบเบียดๆ ได้ 10
ลำพอดิบพอดี) มีลิฟต์อเนกประสงค์เชื่อมโยงระหว่างดาดฟ้าหลักลงไปถึงโรงเก็บยานพาหนะ เจ้าของเรือนำรถหุ้มเกราะ
รถบรรทุก หรืออะไรก็ตามขึ้นมาจัดเก็บบนดาดฟ้าหลักร่วมกับอากาศยาน โดยมีออปชันเสริมจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ขนาด
20
ฟุตในโรงเก็บยานพาหนะได้
แต่ลูกค้าต้องติดตั้งเครนหลังคาสำหรับยกตู้คอนเทนเนอร์ไปจัดเก็บ
เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับแบบเรือจากประเทศเยอรมัน โดยไม่รบกวนที่พักลูกเรือหรือที่พักนาวิกโยธินบริเวณหัวของเรือ
ภาพประกอบที่สี่แสดงการติดระบบเรดาร์และอาวุธ หัวเรือมีจุดติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 76
มม.จำนวน 1 กระบอก
รอบเรือมีจุดติดตั้งปืนกลอัตโนมัติจำนวน 6 จุด หน้า-หลังสะพานเดินเรือมีจุดติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่งสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยานจำนวน
2 จุด 16 ท่อยิง
เรือสามารถติดตั้งเรดาร์ตรวจการณ์ 2 มิติกับ 3 มิติพร้อมกัน ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์มีครบถ้วนไม่แพ้เรือรบลำไหน
การป้องกันตัวเองถือว่าดียอดเยี่ยมกว่าเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบทั่วไป
แบบเรือ MHD 150 ได้รับความสนใจจากกองทัพเรือแอฟริกาใต้ ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยจัดหาเรือฟริเกต
MEKO
A-200 จำนวน 4 ลำกับเรือดำน้ำ Type 210
จำนวน 3 ลำจากเยอรมันมาใช้งาน
มีการนำเสนอข้อมูลและราคาเรือโดยบริษัท TKMS และมีแนวโน้มว่าจะสามารถขายเรือได้จำนวนหนึ่งลำ แต่แล้วในท้ายที่สุดโครงการนี้กลับล่มสลายกลางทาง
รัฐบาลแอฟริกาใต้ไม่สนับสนุนงบประมาณด้วยเหตุผลมากมาย
ลูกเป็ดขี้เหร่จากเมืองเบียร์พลอยไม่ได้แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการเสียที
จุดอ่อนสำคัญที่ผู้เขียนพบบนแบบเรือ MHD 150 ก็คือ จุดติดตั้งลิฟต์อเนกประสงค์อยู่ในตำแหน่งไม่เหมาะสม
และอาจส่งผลรบกวนการบินขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ในจุดที่สี่
MHD 200
ในงาน IMDEX
Asia Exhibition 2009 ประเทศสิงคโปร์
บริษัท TKMS ประเทศเยอรมันเปิดตัวแบบเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบ MHD
200 เป็นครั้งแรก โดยนำแบบเรือ MHD 150 มาขัดเกลาให้ลงตัวมากกว่าเดิม
สร้างหัวเรือสูงใหญ่ใช้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์แบบเต็มพื้นที่
ความขี้เหร่ที่เคยรบกวนจิตใจได้พลันเลือนหายในชั่วพริบตา
MHD 200 ระวางขับน้ำเพิ่มขึ้นเป็น
20,000 ตัน ยาว 190 เมตร กว้าง 28
เมตร ความเร็วสูงสุด 22 นอต
ระยะปฏิบัติการไกลสุด 8,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 15 นอต ออกทะเลได้นานสุด 42 วัน มีจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์จำนวน 6 จุดเท่าเดิม โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์รองรับอากาศยานมากสุด 11 ลำ มาพร้อมเครนอเนกประสงค์ขนาด 30 ตัน
เรือระบายพลขนาดเล็กจำนวน 2 ลำ เรือระบายพลขนาดกลางจำนวน 2
ลำ และดาดฟ้ารองหรือ Multi-Purpose Deck
บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตพร้อมกันมากถึง 54 ใบ
บริษัท TKMS
ให้ข้อมูลว่าแบบเรือ MHD 200 สามารถบรรทุกนาวิกโยธินมากสุด
2,000 นาย หรือปรับเปลี่ยนเป็นเรือพยาบาลรองรับผู้ป่วยจำนวน 120
เตียง มีจุดติดตั้งระบบป้องกันตัวเองระยะประชิดจำนวน 2 จุด กับจุดติดตั้งปืนกลอัตโนมัติจำนวน 4 จุด
รองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายมากกว่าเดิม โดยมีราคาเรือเพียง 150 ล้านยูโรหรือ 189 ล้านเหรียญไม่รวมระบบอำนวยการรบ
แบบเรือ MHD
200 มีความสวยงามและใหญ่โตมากขึ้น แต่ต้องแลกกับจุดติดตั้งอาวุธป้องกันตัวจำนวนลดลง
จำเป็นต้องพึ่งพาเรือฟริเกตในการปกป้องคุ้มครองภัย
จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีลูกค้าแสดงความสนใจแบบเรือ
MHD
200
MESHD
หลังเปิดตัวแบบเรือ MHD 200 ใหม่เอี่ยมอ่องได้เพียงไม่นาน บริษัท TKMS
เร่งเดินหน้าโครงการ Multi-role
Expeditionary Support Helicopter Dock โดยนำแบบเรือ MHD 150 รูปทรงแปลกประหลาดเป็นสารตั้งต้น
ในการพัฒนาเรือยกพลขึ้นบกดาดฟ้าเรียบรุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิมใช้ชื่อว่า MESHD
เรือมีระวางขับน้ำระหว่าง 19,600
ถึง
23,800 ตัน ยาว
195.7
เมตร กว้าง 33.2 เมตร กินน้ำลึก 6.5 ถึง 7.5 เมตร
ใช้เครื่องยนต์ดีเซลบวกมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบขับเคลื่อน ความเร็วสูงสุด 22 นอต ระยะปฏิบัติการไกลสุด 8,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว
15 นอต ใช้ลูกเรือเพียง 94 นาย
ใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินอีก 56 นาย ขยายพื้นที่ใช้งานในเรือจนมีขนาด
10,600 ตารางเมตร
มีการย้ายลิฟต์อเนกประสงค์จากกราบซ้ายมาอยู่กราบขวา การใช้งานจุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์หมายเลขสี่กับหมายเลขห้าพลอยดีขึ้นตามกัน
แบบเรือ MESHD เปรียบได้กับนำแบบเรือ MHD 150 มาแช่น้ำมันก๊าดขยายร่าง ปรับปรุงปล่องระบายความร้อนจากขนาดใหญ่หนึ่งจุดเปลี่ยนเป็นขนาดเล็กสองจุด
หลายสิ่งหลายอย่างดีขึ้นกว่าเดิมชนิดเทียบกันไม่ได้
บังเอิญจุดตั้งอาวุธป้องกันตัวถูกถอดออกเกือบทั้งหมด
เหมาะสมกับชาติใหญ่มีเรือฟริเกตติดอาวุธ 3 มิติตามปกป้องคุ้มภัยตลอดเวลา
หากเป็นชาติเล็กชาติน้อยใช้เรือฟริเกตรุ่นเดอะภาระมีแนวโน้มจะวอดวายทั้งกองเรือ
จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีลูกค้าแสดงความสนใจแบบเรือ
MESHD
MHD 150 for
RTN
วันที่ 30 กันยายน 2025 เสี่ยหนูเดินทางมาเยี่ยมกองทัพเรือถึงสัตหีบ
มีการบรรยายข้อมูลเขี้ยวเล็บแหลมคมให้ผู้มาเยือนรับ ทันทีที่ทราบว่าเรือหลวงจักรีนฤเบศรอายุอานามมากถึง
28 ปี เสี่ยหนูเผลออุทานคำว่า ‘คุณพระคุณเจ้า!’ เขาเริ่มแสดงอาการกลุ้มอกกลุ้มใจผ่านสีหน้าแววตา
ก่อนระบายความรู้สึกให้ลูกประดู่ไทยมากมายได้รับรู้โดยถ้วนหน้า
“ข้าพเจ้าในฐานะผู้นำคนใหม่ให้สัญญาว่า
ข้าพเจ้าจะจัดสรรงบประมาณซื้อเรือธงลำใหม่แทนที่เรือเก่า รบกวนพวกท่านขึ้นโครงการจัดหาเรือขนาดถูกต้องเหมาะสมให้เร็วที่สุด”
วันที่ 1 ตุลาคม
2025 ราชนาวีไทยประกาศจัดหาเรือยกพลขึ้นบกอเนกประสงค์ขนาดไม่เกิน
20,000 ตันจำนวน 1 ลำ
มีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้าร่วมโครงการมากหน้าหลายตา
หนึ่งในนั้นคือบริษัทมาร์ซันจับมือกับบริษัท TKMS
ประเทศเยอรมัน นำเสนอแบบเรือ MHD
150T
รุ่นปรับปรุงใหม่สำหรับราชนาวีไทยโดยเฉพาะตามภาพประกอบสุดท้าย
รูปร่างหน้าตายังคงลักษณะขี้เหร่เหลือกำลังเหมือนเก่า
มีการปรับปรุงพื้นที่ใช้งานภายในเรือให้ทันสมัยมากขึ้น แล้วย้ายลิฟต์อเนกประสงค์จากกราบซ้ายมาอยู่กราบขวา
ในภาพประกอบแสดงการบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตจำนวน
54 ใบบนดาดฟ้ารองหรือ Multi-Purpose Deck โดยมีเฮลิคอปเตอร์จำนวน 3 รุ่นทั้ง Chinook ขนาดใหญ่ Seahawk ขนาดกลาง และ Superlynx 300 ขนาดเล็กสุดสามารถลงจอดบนเรือได้
ระบบอาวุธป้องกันตัวมาแบบจัดแน่นจัดเต็ม
หัวเรือติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่ง Mk41 จำนวน 8 ท่อยิง สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ESSM จำนวน
32 นัด มาพร้อมระบบป้องกันตัวเองระยะประชิด Millennium
Gun จำนวน 2 ระบบ กับปืนกลอัตโนมัติขนาด 20
มม.รุ่น Searanger จำนวน
4 กระบอก สามารถป้องกันตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเรือลำอื่น
ยกเว้นกรณีมีเรือดำน้ำเข้ามาเพ่นพ่านบริเวณสถานที่ยกพลขึ้นบก
ผู้อ่านอาจนึกสงสัยว่าการใช้งานอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน
ESSM จะรบกวนการบินขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์บริเวณหัวเรือมากน้อยแค่ไหน
คำตอบก็คือแทบไม่รบกวนการบินขึ้นลงเลยสักนิด
เพราะเรือออกแบบให้จุดขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์อยู่กราบซ้าย ส่วนสะพานเดินอยู่กราบขวา
เวลาลงจอดเฮลิคอปเตอร์ต้องเข้าทางด้านหลังฝั่งซ้าย เวลาบินขึ้นต้องออกทางด้านหน้าฝั่งซ้าย
ป้องกันใบพัดเฮลิคอปเตอร์ฟาดสะพานเดินเรือเพราะสู้กระแสลมไม่ได้
เท่ากับว่าการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน ESSM
ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานเรือ
MHD 150T ติดตั้งระบบอำนวยการรบ 9LV
Mk4 มาพร้อมเรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศระยะไกล Sea Giraffe 4A กับเรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำระยะใกล้ Sea Giraffe 1X
มีเรดาร์ควบคุมการยิง CEROS 200 จำนวน 2
ตัว มีออปโทรนิกส์ควบคุมการยิง EOS 500 อีก 1
ตัว ใช้ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์กับระบบเป้าลวงเหมือนเรือหลวงตากสิน
ส่งผลให้เรือมีความพร้อมรบเทียบเท่าเรือฟริเกตติดอาวุธ 3 มิติแห่งราชนาวีไทย
สี่เดือนถัดมากองทัพเรือประกาศให้แบบเรือ
MHD 150T คือผู้ชนะโครงการ มาร์ซันกับ
TKMS ได้สัญญาสร้างเรือระยะเวลา
4
ปี หนึ่งชั่วโมงถัดมามีการเดินทางไปพบท่านผู้นำคนใหม่
เพื่อแจ้งข่าวดีและถือโอกาสทวงงบประมาณตามคำมั่นสัญญา
ให้บังเอิญขบวนรถยังเดินทางไม่ถึงที่หมาย
เสี่ยหนูประกาศยุบสภาตามคำมั่นสัญญาที่มีต่อเสี่ยเท้งเสียก่อน โครงการจัดหาเรือขนาดถูกต้องเหมาะสมจึงถูกดองเค็มโดยความไม่ตั้งใจ
เรือธงลำใหม่แห่งราชนาวีไทยลอยเท้งเต้งไปโผล่ที่ไหนไม่มีใครรู้
อ้างอิงจาก
https://www.globalsecurity.org/military/world/europe/mhd.htm
http://www.mdc.idv.tw/mdc/navy/euronavy/mhd-mrd.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น