วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

Type 054 Frigate New Family

 

Type 054 Frigate New Family

ระหว่างปี 2008 ถึง 2019 ข้อมูลจากรายงานรัฐบาลอเมริกาแจ้งว่า กองทัพเรือจีนประจำการเรือฟริเกตชั้น Type 054A จำนวน 30 ลำ นับเป็นเรือฟริเกตยุคสิ้นสุดสงครามเย็นที่มีใช้งานมากที่สุดในโลก

ทว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2022 กองทัพเรือจีนเข้าประจำการเรือฟริเกตชื่อ Ziyang 522 ในกองเรือตะวันออก นับเป็นเรือฟริเกตชั้น Type 054A ลำที่ 31 อย่างเป็นทางการ เรือลำที่ 31 เคยมีข่าวว่าเข้าประจำการนานแล้ว แต่ไม่เป็นทางการและไม่มีการนำเรือออกมาอวดโฉม ผู้เขียนจึงขอยึดถือข้อมูลล่าสุดในการเขียนบทความ

วันที่ 6 ตุลาคม 2022 มีภาพถ่ายเรือฟริเกตชั้น Type 054A ลำที่ 40 กำลังสร้างอยู่ในอู่ต่อเรือ Huangpu โดยมีเรือฟริเกตชั้น Type 054A ลำที่ 38 กับลำที่ 39 จอดลอยลำอยู่ไม่ไกล คนจีนในโลกโซเชียลมีเดียจำนวนมากพูดตรงกันว่า นี่คือเรือฟริเกตชั้น Type 054A สามลำสุดท้ายก่อนสิ้นสุดโครงการ

เท่ากับว่าครอบครัวเรือฟริเกต Type 054 นับถึงปัจจุบัน มีการสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานจำนวน 46 ลำ ประกอบไปด้วย Type 054 เรือต้นแบบจำนวน 2 ลำ Type 054A กองทัพเรือจีนจำนวน 40 ลำ และ Type 054A/PA กองทัพเรือปากีสถานอีก 4 ลำ ครองแชมป์อันดับหนึ่งเรือฟริเกตมากที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ

ผู้เขียนเคยเขียนบทความพัฒนาการครอบครัวเรือฟริเกต Type 054 ในปีที่แล้ว ทบทวนเนื้อหากันสักเล็กน้อยก่อนเข้าสู่ประเด็นใหม่ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในประเทศจีน (แข่งกับข่าวโควิด 19 ระบาดรอบแล้วรอบเล่า)

https://thaimilitary.blogspot.com/2021/06/type-054-frigate-family.html

Original VS Modify

          เรือรบทุกชนิดที่พัฒนาและสร้างขึ้นมาเพื่อประจำการ ผู้เขียนขอถือวิสาสะแบ่งเรือออกเป็น 2 ประเภท ประกอบไปด้วย

          1.Original เรือรบที่ประเทศขนาดใหญ่สร้างขึ้นมาใช้งานจำนวนมาก อาทิเช่นเรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำ Type 23 แห่งราชนาวีอังกฤษ หรือเรือพิฆาตระบบเอจิส Arleigh Burke แห่งกองทัพเรืออเมริกา

          คุณงามความดีของเรือ Original ก็คือ ระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ บนเรือ ได้รับการปรับปรุงตลอดเวลาขึ้นอยู่กับว่ามากหรือน้อย ประเทศที่ซื้อเรือ Original แท้ๆ ไปใช้งานย่อมปรับปรุงเรือตามกันได้ โดยมีค่าใช้จ่ายไม่มากเนื่องจากเป็นการลอกการบ้าน อาวุธทันสมัยที่สุดดีที่สุดสามารถติดตั้งได้ตามประเทศใหญ่ ระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาใช้งานได้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์

          ข้อเสียของเรือ Original ก็คือ เราต้องใช้ระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ บนเรือเหมือนประเทศใหญ่ ต้องพึ่งพาประเทศใหญ่ตลอดอายุการใช้งานเรือ การปรับปรุงเรือเองหรือให้ชาติอื่นปรับปรุงให้อาจทำได้ก็จริง แต่ถึงกระนั้นยังต้องพึ่งพาเจ้าของแบบเรืออีกหลายเรื่อง จำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ดีดังเดิม

          2. Modify เรือรบที่ประเทศต่างๆ สร้างขึ้นมาใช้จำนวนน้อย อาจนำแบบเรือ Original มาปรับปรุงใหม่จนกลายเป็นเรืออีกลำก็ได้ อาทิเช่นเรือฟริเกต F25T หรือเรือชั้นเรือหลวงนเรศวรแห่งราชนาวีไทย

          คุณงามความดีของเรือ Modify ก็คือ เราสามารถเลือกระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ บนเรือด้วยตัวเอง

          ข้อเสียของเรือ Modify ก็คือ การปรับปรุงเรือต้องพึ่งพาตัวเอง ส่วนใหญ่ใช้บริษัทเอกชนเป็นโต้โผในการติดต่อบริษัทเล็กบริษัทน้อย โดยไม่มีหลักประกันว่าเรือที่ปรับปรุงใหม่ใช้งานได้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ การติดตั้งอาวุธทันสมัยที่สุดดีที่สุดจากประเทศใหญ่ทำได้ลำบาก บริษัทเจ้าของสินค้ามักหวงแหนไม่ยอมปล่อยข้อมูลสำคัญให้กับบริษัทโต้โผ ประเทศเจ้าของอาวุธก็ไม่อยากแยกขายเฉพาะอาวุธแต่อยากขายแบบยกเซตมากกว่า

          นี่คือเหตุผลที่ VL-ASROC ไม่มาเรือหลวงภูมิพล 471 ตลอดอายุการใช้งาน ผู้อ่านคนไหนไม่เชื่อกรุณาส่งอีเมลสอบถาม SAAB บริษัทโต้โผในการติดตั้งอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ บนเรือ

          เรือฟริเกตชั้น Type 054A คือเรือ Original ที่มีการปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลา เริ่มจากปรับปรุงระบบตรวจจับเรือดำน้ำรุ่นใหม่ ตั้งแต่เรือลำที่ 18 เป็นต้นไปมีการติดตั้งโซนาร์ลากจูง H/SJG-311 Towed Variable-Depth Sonar (TVDS) เพิ่มเติมบนบั้นท้ายเรือ ทำงานร่วมกับโซนาร์หัวเรือรุ่น Type 307 จีนซื้อลิขสิทธิ์โซนาร์ MGK-335 จากรัสเซียมาสร้างเอง และโซนาร์ลากท้าย H/SJG-206 Towed Line Array Sonar (TLAS) จีนพัฒนาเอง โดยมีระบบเป้าลวงตอร์ปิโดแบบลากท้ายติดอยู่ที่บั้นท้ายเยื้องมาทางกราบขวา

          การปรับปรุงเรื่องถัดไปเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางอากาศระยะใกล้ ตั้งแต่เรือลำที่ 18 เป็นต้นไปมีการติดตั้งระบบป้องกันตนเองระยะประชิด Type 1130 ใช้ปืนกล 30 มม.สิบเอ็ดลำกล้อง แทนที่ Type 730 ใช้ปืนกล 30 มม.เจ็ดลำกล้องรวบอันมีฉายาว่า Chinese Gold Keeper ระบบเป้าลวง Type 726-4 เปลี่ยนมาใช้แท่นยิงรุ่นใหม่ 24 ท่อยิงแทนที่รุ่นเดิม 18 ท่อยิง รวมทั้งมีการปรับปรุงระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมให้ทันสมัยกว่าเดิม

          Type 054A ถูกสร้างขึ้นมาจำนวน 4 รุ่นหรือ 4 Batch ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธภาพสูงขึ้นตั้งแต่ Batch 2 แต่ถึงกระนั้นเรือฟริเกตลำนี้ยังมีจุดอ่อนสำคัญต้องหาวิธีการแก้ไขต่อไป

Type 054A Batch 5

          ระหว่างปี 2020 อู่ต่อเรือ Huangpu กับ Hudong ได้รับสัญญาสร้างเรือฟริเกต Type 054A Batch 5 จำนวน 10 ลำจากรัฐบาลจีน เรือลำแรก (หรือเรือฟริเกต Type 054A ลำที่ 31) ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในเดือน กรกฎาคม 2021 เรือลำสุดท้าย (หรือเรือฟริเกต Type 054A ลำที่ 40) คาดว่าจะทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำภายในปีนี้ ภาพลับสุดยอดในมือผู้เขียนเรือลำสุดท้ายยังคงจอดคาอยู่ในอู่ต่อเรือเหมือนเดิม

          เท่ากับว่าจีนใช้เวลาสร้างเรือฟริเกต Type 054A Batch 5 จำนวน 10 ลำในเวลาไม่ถึง 3 ปี

รัฐบาลจีนใช้เรือฟริเกต Type 054A Batch 5 ทำหน้าที่ทดแทนเรือคอร์เวต Type 056 บางส่วน ที่ถูกโอนย้ายไปสังกัดหน่วยยามฝั่งจีนอย่างเป็นทางการ เหตุผลก็คือเรือคอร์เวต Type 056 ขนาดเล็กเกินไปอาวุธน้อยกินไป ส่งไปทำซ่าในทะเลจีนใต้ไม่ได้อย่างดีก็แค่ใช้ยั่วเรือรบไต้หวันให้หัวเสียเล่น

คำสั่งซื้อเรือฟริเกต 10 ลำโผล่ขึ้นมาช่วงปลายปี 2019 บางแหล่งข่าวรายงานว่าคำสั่งซื้อจากรัฐบาลจีนที่แท้จริงคือ 20 ลำ ประกอบไปด้วยสร้างโดยอู่ต่อเรือ Huangpu 12 ลำกับอู่ต่อเรือ Hudong อีก 8 ลำ ยอดรวมเรือฟริเกต Type 054A จึงอยู่ที่ 50 ลำ ทว่าคนจีนในโลกโซเชียลมีเดียกลับพูดตรงกันว่า ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไปจีนจะเดินหน้าสร้างเรือฟริเกตรุ่นใหม่ล่าสุด ปิดตำนานแม่ทัพเจียงไคสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งลุ่มน้ำแยงซีเกียงไว้ที่ 40 ลำ

คำสั่งซื้อจากรัฐบาลจีนคือ 20 ลำหรือ 10 ลำผู้อ่านทุกคนกรุณาทดไว้ในใจ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนเรือฟริเกต Type 054A Batch 5 น่าสนใจกว่าเยอะเลย

การปรับปรุงเรือ Batch 5 เน้นมาที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ เรดาร์ควบคุมการยิง Type 345 (หรือ MR90 Font Dome จากรัสเซีย) จำนวน 4 ตัวถูกถอดออกจากเรือ แทนที่ด้วยเรดาร์ควบคุมการยิง AESA รุ่นใหม่ทันสมัยจำนวน 4 ตัวเท่ากัน พิจารณาภาพประกอบที่สองไปพร้อมกับผู้เขียนนะครับ

วงกลมสีเหลืองในภาพฝั่งซ้ายคือเรดาร์ควบคุมการยิงท้ายเรือ มีการเฉือน Superstructure มุมโรงเฮลิคอปเตอร์ออกไปบางส่วน เพื่อติดตั้งเรดาร์ควบคุมการยิง AESA ไม่ทราบรุ่นแบบฝังสนิทขยับไม่ได้

วงกลมสีชมพูในภาพฝั่งขวาคือเรดาร์ควบคุมการยิงหัวเรือ ที่ดูเหมือนตู้ลำโพงบนหลังคาสะพานเดินเรือนั่นแหละครับ ขนาดค่อนข้างกะทัดรัดจนผู้เขียนติดใจเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน

เรดาร์ควบคุมการยิง AESA ตัวใหม่ จะช่วยป้องกันภัยทางอากาศให้กับเรือได้ดีกว่า

          เรือฟริเกต Type 054A มีอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน HHQ-16 ไว้ป้องกันตัว ติดตั้งอยู่ในแท่นยิงแนวดิ่งขนาด 32 ท่อยิงหน้าสะพานเดินเรือ โดยมีอาวุธปล่อยนำวิถีปราบเรือดำน้ำ Yu-8 หรือ Chinese ASROC ใช้งานแท่นยิงแนวดิ่งร่วมกัน ฉะนั้นในการออกรบจึงน่าจะติดตั้ง HHQ-16 จำนวน 24 นัดกับ Yu-8 อีก 8 นัด

          อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน HHQ-16 จีนจ้างบริษัท Almaz-Antey ของรัสเซียช่วยพัฒนา โดยใช้อาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยาน Buk-1 ของรัสเซียเป็นต้นแบบ ระบบนำวิถีแบบ Semi-Active ต้องใช้เรดาร์ควบคุมเพื่อชี้เป้าหมาย ระยะยิงไกลสุดอยู่ที่ประมาณ 40 กิโลเมตร รุ่นใช้งานบนบกจีนปรับปรุงให้มีระยะยิงเพิ่มขึ้นเป็น 70 กิโลเมตร โดยใช้เรดาร์ควบคุมการยิง AESA ขนาดใหญ่ในชี้เป้าหมาย แต่ไม่สามารถนำรุ่นยิงไกลมาใช้งานบนเรือฟริเกต Type 054A ได้ เพราะเรดาร์ควบคุมการยิง Type 345 ขนาดเล็กเกินไปชี้เป้าหมายได้แค่ 40 กิโลเมตร

          HHQ-16 ถูกออกแบบให้จัดการเป้าหมายอากาศยานเป็นหลัก ความคล่องตัวค่อนข้างน้อย ยิงเป้าหมายได้ต่ำสุดที่ระยะ 10 เมตรจากพื้น ยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้เรือรบ Harpoon ของอเมริกาได้ก็จริง แต่ Harpoon ต้องบินสูงกว่าระดับน้ำทะเล 10 เมตรขึ้นไป และต้องบินนิ่งๆ สถานเดียวห้ามใช้ท่าโลดโผนโจนทะยานเด็ดขาด

          จุดอ่อนของ HHQ-16 กองทัพเรือจีนรู้ดีเต็มอก การปิดจุดอ่อนสำคัญคือที่มาของอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน HHQ-16C อาวุธรุ่นใหม่ยิงได้ไกลสุด 50 กิโลเมตร มีความคล่องตัวสูงขึ้น หักเลี้ยวระยะประชิดได้ดีขึ้น ทนแรงโน้มถ่วงโลกได้มากสุดถึง 50 G ยิงเป้าหมายที่ระยะต่ำกว่า 10 เมตรจากพื้นได้ ติดตั้งระบบนำวิถีรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูง ทำงานร่วมกับเรดาร์ควบคุมการยิง AESA บนเรือฟริเกต Type 054A Batch 5 ได้อย่างเข้าขา

          HHQ-16C จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่า ESSM ของอเมริกา ฉายา Chinese ESSM จึงเหมาะสมมากที่สุด แต่ถึงกระนั้น HHQ-16C ยังคงตามหลัง ESSM Block 2 ประมาณ 10 ปีเป็นอย่างต่ำ

เรือฟริเกต Type 054A รุ่นเก่าใช้งาน HHQ-16C ได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่อาจรีดประสิทธิภาพที่ดีที่สุดออกมาจาก HHQ-16C วิธีแก้ไขที่เหมาะสมคือเปลี่ยนเรดาร์ควบคุมการยิง Type 345 ให้เป็นรุ่นใหม่เสียเลย

Type 054B

          คนจีนในโลกโซเชียลมีเดียพูดตรงกันว่า ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไปจีนจะเดินหน้าสร้างเรือฟริเกตรุ่นใหม่ล่าสุด โครงการดังกล่าวก็คือเรือฟริเกต Type 054B ในตำนานที่ผู้อ่านทุกคนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี

          ผู้เขียนรู้จักเรือฟริเกต Type 054B มากกว่า 8 ปีขึ้นไป เคยเห็นภาพกราฟิกสวยๆ มากกว่า 10 แบบเรือ แต่ไม่เคยปักใจเชื่อว่าจีนจะสร้างเรือฟริเกต Type 054B จริงตามภาพที่เหล่าแฟนอาร์ตสร้างขึ้นมา เหตุผลไม่มีอะไรมากเกี่ยวข้องกับเรื่องงบประมาณล้วนๆ

แบบเรือ Type 054B ทุกลำติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่งเพิ่มเติมบริเวณกลางเรือจำนวนหนึ่ง ติดเรดาร์ตรวจการณ์ทันสมัยฝังรอบเสากระโดงสี่ทิศทาง ขนาดเรือใหญ่กว่าเดิมแบกอาวุธเกือบล้นลำ เหมาะสมเหลือเกินที่จะเป็นเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศ ให้บังเอิญจีนไม่ได้ต้องการเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศ พวกเขามีเรือพิฆาตติดเรดาร์ทันสมัยทั้งเรือชั้น Type 052x และ Type 055 ในจำนวนมากเพียงพอ

จีนต้องการเรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำรุ่นใหม่ ใช้แบบเรือทันสมัยกว่าเดิมในราคาเหมาะสม

จีนต้องการเรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำจำนวนมาก ไม่ใช่เรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำดีที่สุดในโลกแค่ไม่กี่ลำ

ด้วยเหตุผลตามที่กล่าวอ้างผู้เขียนจึงไม่เชื่อว่าจีนจะสร้างเรือฟริเกต Type 054B จนกระทั่งกลางปีนี้บังเอิญเห็นแบบเรือ Type 054B ใหม่ล่าสุด จึงเริ่มเปลี่ยนใจให้ความเชื่อถือว่าจีนอาจสร้างจริงมากกว่าเดิม

พิจารณาภาพประกอบที่สามไปพร้อมกัน ภาพบนคือเรือฟริเกต Type 054A Batch 5 มาพร้อมเรดาร์ควบคุมการยิง AESA รุ่นใหม่ ส่วนภาพล่างคือเรือฟริเกต Type 054B เวอร์ชันปี 2022 ที่อาจมีการสร้างจริง

ความยาวเรือใกล้เคียงกับรุ่นเดิม ระวางขับน้ำเพิ่มขึ้นมาเป็น 4,200 ตัน Type 054B ได้รับการออกแบบหัวเรือใหม่หมด จากรูปทรงแหลมยาวคล้ายเรือหลวงภูมิพล 471 กลายเป็นอ้วนกว้างคล้ายเรือฟริเกตชั้น Formidabel ของสิงคโปร์ สังเกตนะว่าบริเวณหัวเรือกลายเป็นพื้นที่ว่างโล่ง เครื่องกว้านสมอเรือและอุปกรณ์จุกจิกถูกโยกลงไปอยู่ใต้ดาดฟ้า เหตุผลก็คือช่วยลดการสะท้อนคลื่นเรดาร์จากเรือฝ่ายตรงข้าม

ระบบอาวุธมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน แท่นยิงจรวดปราบเรือดำน้ำ Type 87 ขนาดหกท่อยิงหายไปหัวเรือ ปืนใหญ่ H/PJ-26 ขนาด 76 มม.ถูกแทนที่ด้วยปืนใหญ่ H/PJ-38 ขนาด 130 มม. ถัดไปคือแท่นยิงแนวดิ่งจำนวน 48 ท่อยิง หน้าสะพานเดินเรือติดตั้งระบบป้องกันตนเองระยะประชิด Type 1130

สำหรับแท่นยิงแนวดิ่งผู้เขียนติดใจพอสมควร เรือขนาด 4,200 ตันจำนวน 32 ท่อยิงเหมาะสมมากที่สุด แต่ข้อมูลจากมิตรรักแฟนเพลงชาวจีนระบุชัดเจนว่า 48 ท่อยิง เป็นไปได้ว่าหนึ่งแถวตามขวางจะติดท่อยิงตามยาวจำนวน 3 ระบบ 24 ท่อยิง ฉะนั้นสองแถวตามขวางจะติดท่อยิงตามยาวจำนวน 6 ระบบ 48 ท่อยิง

ปัญหาที่ตามมาคือการจัดสรรพื้นที่ใต้ดาดฟ้าเรืออันแสนน้อยนิด

พื้นที่ส่วนใหญ่เสียให้กับแท่นยิงแนวดิ่ง 48 ท่อยิงไปแล้ว ปืนใหญ่เปลี่ยนมาใช้ขนาด 130 มม.ต้องใช้พื้นที่คลังแสงมากขึ้นตามขนาดปืน พื้นที่หน้าปืนใหญ่ต้องแบ่งให้กับเครื่องกว้านสมอเรือและอุปกรณ์จุกจิกเกือบทั้งหมด เท่ากับว่าหัวเรือแทบไม่เหลือที่ว่างหรือพื้นที่ใช้สอยสำหรับลูกเรือ

ผู้เขียนยังคงคิดว่าแท่นยิงแนวดิ่ง 32 ท่อยิงเหมาะสมมากที่สุเ แต่ก็เอาเถอะในเมื่อจีนอยากติด 48 ท่อยิงเราไม่ว่ากัน พิจารณาส่วนอื่นของเรือฟริเกตรุ่นใหม่ล่าสุดของโลกต่อไปดีกว่า

สะพานเดินเรือขนาดสั้นกว่าเดิมเล็กน้อย ตีโป่งเล็กน้อยแล้วสร้างระเบียงสำหรับตรวจการณ์ หลังคาสะพานเดินเรือมีเพียงเรดาร์ควบคุมการยิงปืนใหญ่ Type 344 ตัวเดียว เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำระยะเกินขอบฟ้า Type 366 หรือMR-331 Mineral-ME ของรัสเซียหายไป เสากระโดงหลักติดตั้งเรดาร์ตรวจการณ์ AESA รูปทรงสามเหลี่ยมพีระมิดไม่ทราบรุ่น ทำงานโดยการหมุนรอบตัวเอง 360 องศาตามปรกติ กรุณานึกถึงเรดาร์ Herakles บนเรือฟริเกตชั้น Formidabel ของสิงคโปร์นั่นแหละครับใช่เลย

Chinese Herakles ราคาประหยัดกว่าเรดาร์ AESA ฝังบนเสากระโดงสี่ทิศทาง หากมีการติดตั้งจริงบนเรือฟริเกต Type 054B ผู้เขียนคิดว่าเหมาะสม ทันสมัยกว่าเรดาร์ Type 382 หรือ มิติ MR-710 Fregat ของรัสเซียบนเรือฟริเกต Type 054A ในระดับหนึ่ง โดยที่ราคาเรือไม่พุ่งพรวดเสียจนสร้างเรือจำนวนมากไม่ได้

ปล่องระบายความร้อนขนาดเล็กลงและเปลี่ยนจุดติดตั้ง ผู้เขียนยังมึนๆ กับภาพกราฟิกไว้รอดูของจริงดีกว่า อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้เรือรบ YJ-83 ถูกแทนที่ด้วย YJ-12 จำนวน 8 นัดเท่ากัน YJ-12 ยิงได้ไกลสุด 400 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุดระหว่างเดินทาง 4 มัค ช่วยป้องกันภัยคุกคามจากเรือผิวน้ำฝ่ายตรงข้ามได้ดีกว่าเดิม

โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ขนาดใกล้เคียงของเดิม จุดปล่อยตอร์ปิโดเบาปราบเรือดำน้ำยังอยู่ตำแหน่งเดิม แท่นยิงระบบเป้าลวงย้ายมาทางด้านหน้าพอสมควร ในเสากระโดงรองติดตั้งเรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ MR-36A เหนือโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์คือระบบป้องกันตนเองระยะประชิด HQ-10 ขนาด 24 ท่อยิง CIWS รุ่นใหม่ทันสมัยใช้ชื่อรุ่นส่งออกว่า FL-3000N หรือเจ้าของฉายา Chinese RAM ที่ผู้อ่านทุกคนรู้จักดีนั่นเอง

อีกไม่นานจะก้าวเข้าสู่ปี 2023 กันแล้ว ถึงตอนนั้นคงได้รู้กันว่าจีนจะสร้างเรือฟริเกต Type 054A Batch 5 เพิ่ม 10 ลำ หรือขึ้นโครงการเรือฟริเกต Type 054B อย่างเป็นทางการ โดยมี HHQ-16 จำนวน 32 นัด กับ Yu-8 อีก 16 นัดในแท่นยิงแนวดิ่ง รวมทั้ง HQ-10  CWIS ระยะยิง 10 กิโลเมตรอีก 24 นัดไว้ป้องกันตัว

เรือฟริเกตขนาด 4,000 ตันรุ่นส่งออก

บริษัท CSSC พัฒนาแบบเรือส่งออกขนาด 4,000 ตันขึ้นมา 2 แบบเรือด้วยกัน ประกอบไปด้วยแบบเรือ White Shark-4000 Frigate ภาพบน ที่ปรับปรุงมาจากเรือฟริเกต Type 054A เรดาร์ตรวจการณ์ Type 382 บนเสากระโดงหลักถูกแทนที่ด้วยเรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ SR2410C  โบร์ชัวร์บริษัท CSOC ระบุว่า SR2410C มีระยะทำการไกลสุด 150 กิโลเมตร ติดตามเป้าหมายให้อาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานที่ระยะไกลสุด 60 กิโลเมตร ตรวจจับเป้าหมายความเร็วสูงสุดที่ 3 มัค ตรวจจับอากาศยานไร้คนขับหรืออาวุธนำวิถีต่อสู้เรือรบระดับต่ำได้ดีมาก ทว่าเรือรบจีนไม่ได้ใช้งานเรดาร์ SR2410C แม้แต่ลำเดียว เพราะเป็นเรดาร์สำหรับเรือรบรุ่นส่งออกเท่านั้น

แบบเรือ White Shark-4000 Frigate ก็คือเรือฟริเกต Type 054A/P กองทัพเรือปากีสถาน เพียงแต่ว่าปากีสถานติดตั้งเรดาร์ตรวจการณ์ระยะไกล TYPE 517 เพิ่มเติมเข้ามา อุปกรณ์ที่เหลือเหมือนกันหมดรวมทั้งเรดาร์ควบคุมการยิง Type 345 รุ่นเก่า จึงใช้งานอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน HHQ-16C ไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนเรือฟริเกต Type 054A Batch 5

แบบเรือส่งออกลำดับสองจากบริษัท CSSC เช่นกัน (ภาพล่าง) เพิ่งอวดโฉมในงานแสดงการบิน Zhuhai Air Show 2022 ต้นเดือนพฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา ใช้ชื่อแบบเรือว่า Type 054A for Export ง่ายๆ แบบนี้ หัวเรือรูปทรงแหลมยาวใกล้เคียง White Shark-4000 Frigate เครื่องกว้านสมอเรือและอุปกรณ์จุกจิกถูกโยกลงไปอยู่ใต้ดาดฟ้า สะพานเดินเรือทรงสี่เหลี่ยมค่อนข้างเชยคล้ายเรือฟริเกตฝรั่งเศส เสากระโดงหลักน่าจะติดตั้งเรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ SR2410C แม้ว่ารูปทรงจะดูคล้ายคลึงเรดาร์ Thales Smart-S Mk2 ราวกับฝาแฝด

เรือลำนี้ไม่มีปล่องระบายความร้อนใหญ่เทอะทะ ติดตั้งระบบอาวุธและเรดาร์เหมือน White Shark-4000 Frigate ทุกประการ แต่ได้เรดาร์ควบคุมการยิง AESA รุ่นใหม่เหมือนเรือฟริเกต Type 054A Batch 5 ทำงานร่วมกับอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน HHQ-16C ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สองคนยลตามช่องใครชอบลำไหนก็ลำนั้นผู้เขียนไม่คิดขัดใจ

บทสรุปปิดท้าย

          ครอบครัวเรือฟริเกต Type 054 ยังเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ โดยมีลูกค้ารายใหญ่เจ้าเดียวคือกองทัพเรือจีน ลูกค้าอันดับสองกองทัพเรือปากีสถานหยุดตัวเลขไว้ที่ 4 ลำแน่นอน พวกเขาขึ้นโครงการสร้างเรือฟริเกตโดยใช้แบบเรือจากตุรเคียร์เรียบร้อยแล้ว ส่วนลูกค้าอันดับสามอย่างไทยแลนด์แม้อยากได้แต่ไม่มีเงิน รวมทั้งแรงต้านจากคนในชาติมีความพร้อมเพรียงกันราวกับแลนด์สไลด์ ลูกค้าใหม่ในทวีปแอฟริกาไม่มีความพร้อมเรื่องงบประมาณ ลูกค้าเงินถุงเงินถังอย่างอัลจีเรียก็ดูเหมือนจะค่อยๆ ห่างเหิน ลูกค้ากระเป๋าหนักอย่างอียิปต์ไปเรือรบยุโรปเต็มตัวแล้ว ที่เหลือเป็นเพียงลูกค้ารายเล็กรายทั่วไปน้อยไม่มีอะไรน่าสนใจ

แชมป์เปี้ยนเรือฟริเกตมากที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ จะก้าวเดินไปยังทิศทางไหนคงได้รู้กันในปีหน้า  ถ้า Type 054B โผล่ขึ้นมารับประกันเป็นข่าวใหญ่ แต่ถ้าเป็น Type 054A Batch 5 โลกคงสงบสุขไปอีกแสนนาน

                                        +++++++++++++++++++++++

อ้างอิงจาก

รายงานเรื่อง : China Naval Modernization: Implications for U.S. Navy Capabilities—Background and Issues for Congress

https://twitter.com/Nickatgreat1220/status/1573565078007267329

https://twitter.com/geoaffairs9/status/1590691489260384256

https://www.international-military.com/2022/11/capability-type-054a-ziyang-jiangkai-ii.html

https://thediplomat.com/2020/12/hints-of-chinese-naval-ambitions-in-the-2020s

https://en.wikipedia.org/wiki/Type_054A_frigate

https://thaimilitary.blogspot.com/2021/06/type-054-frigate-family.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น