วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

The Coastal Navy

 

พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารเรือวันที่ 19 พฤศจิกายน 2516 ช่วงนั้นประเทศไทยกำลังวุ่นวายกับสถานการณ์รอบตัว ทั้งการเมืองภายในประเทศที่กำลังร้อนระอุ ภัยคุกคามจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่กำลังขยายตัวทั่วประเทศ ภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้าน มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายแทรกซึมผ่านชายแดนเข้ามาในประเทศบ่อยครั้ง สหรัฐอเมริกาก็เพิ่งถอนตัวจากสงครามเวียดนาม และกำลังถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยทั้งหมด อาวุธหรืออะไรก็ตามที่ไทยเคยได้ใช้งานฟรีๆ ย่อมหายตามกันไปด้วย แต่ยังนับว่าโชคดีที่ความช่วยเหลือด้านการทหารยังคงเหมือนเก่า

          หลังรับตำแหน่งพลเรือเอกสงัด ชะลออยู่ ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอรับพระบรมราชโอวาทในโอกาสที่รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชกระแสรับสั่งต่อผู้บัญชาการทหารเรือ มีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่องอาทิเช่น

          -เกี่ยวกับสหรัฐอเมริกาถอนตัวออกไปจากประเทศไทย พระองค์ได้มีพระราชกระแสรับสั่งว่าขอให้ทุกคนพยายามยืนด้วยขาของตนเองอย่าไปหวังพึ่งเขาจนหลวมตัว หรือคิดไปว่าเมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือแล้วจะอยู่ไม่ได้กองทัพไทยต้องพยายามยืนอยู่บนขาของตัวเองให้มากที่สุด

          -กำลังรบทางเรือ ควรหันไปใช้เรือเล็กที่มีความเร็วสูงให้มาก เพราะเรือใหญ่หาได้ยาก ต้องใช้บประมาณและคนมาก กว่าจะรวบรวมได้ก็ใช้เวลานาน ส่วนเรือเล็กหาได้ง่ายกว่า ใช้งบประมาณน้อยกว่า

          -ขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการตามลำแม่น้ำโขงที่อยู่ตามชายแดน อย่าได้เกลือกกลั้วกับพวกโสณทุจริต พยายามห่างๆ ไว้ ให้รักษาความดีที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ อย่าไปร่วมมือกับผู้ประพฤติมิชอบ

          จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงอวยพรและทรงฝากความหวังว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ คงจะได้ปรับปรุงกองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้าขึ้นไปตามลำดับ

          ระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่พลเรือเอกสงัด ชลออยู่หรือ บิ๊กจอว์ส ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ กองทัพเรือมีการพัฒนาทุกหน่วยงานอย่างเป็นลำดับขั้นตอน โดยเฉพาะกำลังทางเรือมีการเสริมทัพด้วยเรือรบยุคใหม่ติดอาวุธทันสมัยจำนวนพอสมควร ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

การพัฒนาด้านกำลังรบระหว่างปี 2516 ถึง 2519

ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมากองทัพเรือได้มีการพัฒนากำลังรบ เพื่อให้มีการดำเนินการตามนโยบายและแนวปฏิบัติด้านยุทธการได้มากพอสมควร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเฉพาะที่สำคัญมีดังต่อไปนี้

การเสริมสร้างกำลังรบ

ได้กำหนดโครงการไว้เป็นลำดับขั้นตอนเพื่อสอดคล้องกับฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ พิจารณาถึงข้าศึกที่อาจเป็นไปได้ที่อยู่ใกล้ว่ามีขนาดของกำลัง อาวุธยุทโธปกรณ์ การจัดวางกำลัง ประสิทธิภาพในการรบ ความคล่องตัว เพื่อให้ได้มาซึ่งกำลังอันเหมาะสมกับภัยคุกคามต่างๆ ให้สมส่วนกันโดยจัดทำโครงการจัดหาเป็นระยะยาว ตามเป้าหมายการเสริมกำลังรบไม่ให้เสียงบประมาณรายปีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเกินขีดความสามารถของหน่วยเหนือจะจัดสรรเป็นพิเศษให้ได้ รวมทั้งใช้งบประมาณประจำของกองทัพเรือเข้ามาสมทบ และขอความช่วยเหลือจากมิตรประเทศเท่าที่ทำได้ ผลงานที่ได้ดำเนินการไป การรับโครงการเดิมมาปฏิบัติต่อ และโครงการที่ได้อนุมัติแล้วซึ่งจะดำเนินการต่อไป ที่สำคัญๆ มีดังต่อไปนี้

กำลังทางเรือ

          ได้กำหนดแนวทางการจัดหาเรือที่เหมาะสม ควรเป็นเรือเล็กที่มีขีดความสามารถพอตัว และคล่องตัวทั้งในการรับทางรุกมีอำนาจในการป้องปรามตามสมควร เช่น เรือยนต์เร็วติดอาวุธนำวิถีพื้นสู่พื้น นอกจากนั้นก็ได้หากำลังที่มีความอ่อนตัวที่สามารถรับภัยคุกคามได้ทั้งการรบนอกแบบและในแบบ หรือเป็นเรือที่ใช้งานได้หลายอย่าง เช่น เรือฟริเกตเล็ก และเรือยนต์ปืนความเร็วสูงเป็นต้น นอกจากนั้นยังได้พิจารณาจัดหาเรืออื่นๆ อีกเพื่อใช้ในการสนับสนุนการปฏิบัติการ ทั้งทางด้านยุทธการและกิจการพิเศษ เช่น เพื่อสนับสนุนการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และใช้งานเกี่ยวกับเครื่องหมายทางเรือเป็นต้น ซึ่งการจัดหาเพื่อการเสริมสร้างกำลังรบให้บรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ ได้ดำเนินการเพื่อให้ได้มาในหลายรูปแบบเท่าที่ปรากฏได้แก่

1.การสั่งต่อเรือจากต่างประเทศ

          ได้รับปฏิบัติโครงการต่อเนื่องเพื่อการจัดหา

.เรือฟริเกตติดอาวุธนำวิถีพื้นสู่อากาศที่สั่งต่อจากประเทศอังกฤษ คือ ร..มกุฎราชกุมาร เดินทางกลับถึงประเทศไทยเดือนมีนาคม 2517

.เรือฟริเกตซึ่งสั่งต่อจากสหรัฐอเมริกาชั้นเดียวกับ ร..ตาปี ซึ่งได้รับมาก่อนนี้แล้ว คือ ร..คีรีรัฐ เดินทางกลับถึงประเทศไทยเดือนสิงหาคม 2517

.เรือยนต์เร็วติดอาวุธนำวิถีพื้นสู่พื้น คือจรวด Gabriel จำนวน 3 ลำจากบริษัทสิงคโปร์ชิพบิลดิ้ง สาธารณรัฐสิงคโปร์ คือ ร..ปราบปรปักษ์ ร..หาญหักศัตรู และ ร..สู้ไพลิน ขณะนี้ได้รับมอบ ร..ปราบปรปักษ์ แล้วตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2519 ส่วนอีก 2 ลำจะได้รับประมาณ 3 เดือนและ 6 เดือน ตามลำดับต่อจากการรับลำแรกแล้ว

โครงการที่จะได้ดำเนินการไปยังไม่แล้วเสร็จ

โครงการต่อเรือยนต์เร็วติดอาวุธนำวิถีพื้นสู่พื้น คือจรวด Exocet จำนวน 3 ลำ โดยรัฐบาลเห็นชอบเพื่อคุ้มครองการสำรวจขุดเจาะน้ำมันในทะเล ซึ่งตรงกับเป้าหมายการเสริมสร้างกำลังรบของกองทัพเรือ จึงได้ดำเนินการเป็นขั้นตอนเรื่อยมาในขั้นแรกได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เสียผลประโยชน์และสื่อมวลชนเกือบทำให้การต่อเรือชุดนี้ต้องเลิกล้มไป

แต่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การดำเนินการโดยถูกต้องตามระเบียบปฏิบัติของราชการ ความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างกำลังกองทัพเรือด้วยความบริสุทธิ์ใจ ประกอบกับประจักษ์พยานที่ปรากฏ ได้เป็นสิ่งยืนยันให้รัฐบาลเชื่อถือและอนุมัติให้กองทัพเรือสั่งต่อเรือชุดนี้จากบริษัท CANTIERE NAVALE BREDA ประเทศอิตาลี ในวงเงินงบประมาณค่าสร้างเรือทั้ง 3 ลำประมาณ 1,213 ล้านบาทเศษ และค่าสนับสนุนต่างๆ เช่นค่าใช้จ่ายในการรับเรือ กรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงาน อุปกรณ์ทดสอบจรวด และอะไหล่ประจำคลัง ซึ่งต้องจัดหาควบคู่กันไป และให้ได้มาก่อนการรับมอบเรือหรือพร้อมรับมอบเรือ ซึ่งค่าสนับสนุนดังกล่าวสำหรับเรือทั้ง 3 ลำเป็นเงินประมาณ 523 ล้านบาทเศษ

จึงเป็นงบประมาณทั้งสิ้นในการจัดหาเรือชุดนี้ทั้ง 3 ลำเป็นเงินประมาณ 1,736 ล้านบาทเศษ ขณะนี้ได้ลงนามสัญญาแล้ว เมื่อ 29 กรกฎาคม 2519 สองลำแรกจะต่อแล้วเสร็จประมาณเมษายน 2522 ลำสุดท้ายประมาณ กรกฎาคม 2522

2.การสั่งต่อในประเทศ

โดยการสนับสนุนอย่างสำคัญของผู้บัญชาการทหารเรือ กองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัท อู่กรุงเทพจำกัด อันเป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งอยู่ในความควบคุมของกองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม ต่อเรือให้กองทัพเรืออันเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ และเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี ความรู้ความชำนาญ ประสบการณ์ตลอดจนการบริหารในการต่อเรือ เพื่อให้ก้าวหน้าและมีขีดความสามารถในการต่อเรือที่ทันสมัยยิ่งๆ ขึ้นไป

.การต่อเรือใช้งานเครื่องหมายทางเรือ (Buoy Tender) ตามโครงการพัฒนาเครื่องหมายช่วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย ของกรมอุทกศาสตร์และกระทรวงคมนาคมร่วมกัน ด้วยงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการและได้โอนให้กองทัพเรือเป็นผู้เบิกจ่ายแทน ในวงเงินค่าจัดสร้างเป็นเงิน 52 ล้านบาทเศษ เป็นเรือที่มีระวางขับน้ำปรกติ 690 ตัน ระวางขับน้ำเต็มที่ 960 ตัน ความเร็วสูงสุด 12 นอต ซึ่งจะเป็นเรือที่ทันสมัย มีระยะปฏิบัติการไกล มีขีดความสามารถและคงทนทะเลสูง ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเท่าที่ปฏิบัติมา แม้ว่ากองทัพเรือจะมีเรือที่สามารถใช้ในกิจการนี้อยู่ได้ก็ตาม แต่ก็เป็นเรือเล็กเก่าและล้าสมัย ไม่สามารถปฏิบัติการไกลจากหน่วยที่ตั้งได้มาก ทำให้การปฏิบัติการโครงการพัฒนาเครื่องหมายช่วยการเดินเรือในน่านน้ำไทยได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเดินเรือเป็นอย่างยิ่ง  การต่อเรือนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยผู้บัญชาการทหารเรือได้เป็นประธานในพิธีวางกระดูกงู เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2519

.โครงการต่อเรือ ATC จำนวน 1 ลำเป็นเรือที่จะใช้บังคับบัญชาและควบคุมปฏิบัติการในลำแม่น้ำ และการลำเลียงทหาร

8.โครงการต่อเรือ LCVP จำนวน 6 ลำ เพื่อใช้กับเรือ LST ที่อาจชำรุดเสียหายไป และสนับสนุนการเคลื่อนจากเรือสู่ฝั่งในการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และสนับสนุนการปฏิบัติการในกิจของกองเรือลำน้ำ

3.เรือที่กองทัพเรือต่อเอง

          ได้ดำเนินการโดยกรมอู่ทหารเรือนอกเหนือจากการปรับปรุงแก้ไข ซ่อมบำรุงต่างๆ ในกองทัพเรือ การต่อเรือเองนี้ นอกจากจะเป็นการเสริมสร้างกำลังกองทัพเรือแล้ว ยังได้ประโยชน์จากการที่เจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือมีโอกาสได้รับและพัฒนาความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์และเทคโนโลยีทางด้านการต่อเรือให้สูงขึ้น จึงได้มีการวิจัย และสร้างเรือให้เหมาะสมกับภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมของประเทศ เท่าที่ได้ดำเนินการไปแล้วตามโครงการ ได้แก่

          .โครงการต่อเรือประเภทเรือตรวจฝั่งความเร็วสูง ใช้ในกิจการตรวจรักษาฝั่ง ป้องกันการแทรกซึมทางทะเล และกิจอื่นๆ เป็นแบบเรือ ต.91 ที่ได้สร้างไปแล้ว คือเรือ ต.92 ขณะนี้ได้ทำการทดลองแล้วได้ผลเกินกว่าที่คาดคิดไว้มาก กำลังดำเนินการขั้นสุดท้ายเพื่อใช้ในราชการต่อไป

          .โครงการต่อเรือ Assault Boat กำลังดำเนินการอยู่ในโครงการจำนวน 31 ลำ เพื่อใช้ในการปฏิบัติการในลำแม่น้ำ (Riverine Operation) โดยเฉพาะสนับสนุนการปฏิบัติการในลำแม่น้ำโขง ของหน่วยปฏิบัติการตามลำแม่น้ำโขงให้ดียิ่งขึ้น

          โครงการต่อเรือตรวจการณ์ลำน้ำระบบ HYDROJET เพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาที่ได้รับมาแล้วจากการที่ได้ใช้เรือตรวจการณ์แบบใช้เครื่องติดท้าย ซึ่งมักจะชำรุดเมื่อกระทบกระแทกกับสิ่งใต้น้ำ เช่นสันทราย จึงได้มีการดำเนินการตามโครงการนี้ โดยได้ต่อและทดลองแล้ว 1 ลำ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจสามารถทำให้เรือยกขึ้นจากแรงหยุ่นของอากาศได้เมื่อใช้ความเร็วประมาณ 23 นอต และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 32 นอต จึงได้สั่งการให้กรมอู่ทหารเรือสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีก 2 ลำให้เสร็จภายในปี 2519 นี้ พร้อมทั้งติดอาวุธเพื่อนำไปทดลองทางด้านยุทธการก่อนที่จะนำไปใช้ในกองเรือลำน้ำ

4.ซื้อเรือจากต่างประเทศ

          ได้จัดซื้อเรือยกพลขึ้นบกประเภท LST  จำนวน  1 ลำ คือเรือ LST-722 เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกของกองเรือยุทธการควบคู่ไปกับการพัฒนากำลังนาวิกโยธิน และเพื่อใช้ในภารกิจอื่นๆ ของกองเรือยุทธการด้วย โดยได้ติดต่อซื้อจากสหรัฐอเมริกาตามสภาพที่เป็นอยู่ ซึ่งผลการติดต่อสามารถจะซื้อได้ในราคาประมาณ 6 ล้านบาท แต่จำเป็นต้องได้รับการซ่อมทำและปรับปรุงบ้างก่อนที่จะนำออกใช้ปฏิบัติการ เมื่อได้เปรียบเทียบการซ่อมทำปรับปรุงแล้ว ปรากฏว่าการซ่อมทำในต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าในประเทศมาก จึงได้ว่าจ้างให้บริษัทเดินเรือของต่างประเทศทำการพ่วงจูงเรือ LST นี้จากสหรัฐอเมริกา เพื่อมาดำเนินการซ่อมทำประเทศในไทย เสียค่าจ้างพ่วงจูงประมาณ 8.6 ล้านบาท ซึ่งเมื่อครวมกับค่าซ่อมทำในประเทศซึ่งคาดว่าไม่สูงมากนักแล้ว ยังถูกกว่าการต่อเรือหรือซื้อเรือใหม่มาก นับว่าเป็นการจัดหาเรือเพื่อเสริมสร้างกำลังรบให้บรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น และประหยัดงบประมาณได้มาก เรือลำนี้เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้วจะขอพระราชทานชื่อว่า ..พระทอง

5.รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา

          ตามโครงการช่วยเหลือทางทหารได้แก่

          .รับมอบ ร..ปิ่นเกล้า ซึ่งสหรัฐอเมริกาให้ยืมใช้ราชการตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือได้ติดต่อเจรจากับฝ่ายสหรัฐอเมริกาด้วยตนเอง เพื่อขอซื้อเป็นผลสำเร็จจนเป็นการได้เปล่าในที่สุด ในปี 2519

          .รับเรือ PCF จำนวน 5 ลำ เพื่อใช้ในการตรวจรักษาฝั่ง

          .รับเรือ PRB จำนวน 4 ลำ สำหรับกองเรือลำน้ำ เพื่อเสริมสร้างกำลังหน่วยปฏิบัติการตามลำแม่น้ำโขง ให้เป็นไปตามโครงการที่วางไว้ให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติการยิ่งขึ้น

6.การพัฒนากองเรือลำน้ำ

          หลังจากได้ก่อตั้งกองเรือลำน้ำขึ้นในกองเรือยุทธการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2516 นั้น เนื่องจากเป็นกองเรือที่จัดตั้งใหม่ จึงได้มีการปรับปรุงพัฒนาด้านต่างๆ ขึ้นมาตามลำดับ เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบอย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยให้แนวทางที่จะปฏิบัติในลำน้ำที่มีภัยคุกคามปรากฏก่อน เช่น แม่น้ำโขง และได้เตรียมการในการปฏิบัติในลำน้ำอื่นๆ ที่อาจมีภัยคุกคามเกิดขึ้นก็ได้ต่อไป โดยได้ดำเนินการพัฒนาในเรื่องต่างๆ ดังนี้

          .การเตรียมกำลัง ได้จัดเตรียมกำลังทางเรือที่จะใช้ปฏิบัติการในลำน้ำทั้งที่จัดหาเอง และรับการช่วยเหลือจากต่างประเทศตามที่กล่าวมาแล้ว รวมทั้งวิจัยพัฒนาเรือที่ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่ได้รับจากสภาพแวดล้อม และภูมิประเทศของลำน้ำในประเทศ และลำน้ำชายแดนที่ต้องรับผิดชอบ

          .พัฒนาองค์บุคคล ยุทธวิธีและหลักนิยม โดยฝึกอบรมกำลังพลที่จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่หมุนเวียนกัน โดยนำเอาหลักนิยมและยุทธวิธีที่นาวีต่างประเทศเคยใช้ได้ผล มาประยุกต์กับสภาพความเป็นจริงของประเทศให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ได้ผล โดยมุ่งที่ลำน้ำโขงเป็นลำดับแรก และแม่น้ำอื่นๆ ที่รับผิดชอบในลำดับต่อมา เพื่อเป็นการเตรียมการไว้เมื่อเกิดภัยคุกคามขึ้น

          .พัฒนาปรับปรุงสิ่งก่อสร้างต่างๆ สนับสนุนเจ้าหน้าที่และกำลังที่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามลำน้ำโขง เช่น สิ่งก่อสร้าง ที่พักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกแพพักอาศัยสำหรับสถานีเรือต่างๆ ชนิดเฟอร์โรซีเมนต์ อู่ลอยชนิดเฟอร์โรซีเมนต์  ยานพาหนะและสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงให้สูงขึ้นเพื่อผลในการปฏิบัติงาน

กำลังอากาศนาวี

          มีแนวทางเพื่อการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมตามแผนพัฒนากำลังรบ และเพื่อทดแทนเครื่องบินที่หมดอายุใช้งาน เนื่องจากได้เล็งเห็นแล้วว่ากำลังอากาศนาวีที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะปฏิบัติภารกิจตามแผนป้องกันประเทศเป็นเครื่องบินแบบเก่าอาจใช้ราชการต่อไปได้อีกไม่นานนัก และอาจไม่มีชิ้นส่วนอะไหล่สนับสนุนจำเป็นต้องจัดหาเพิ่มเติมและทดแทน จึงได้จัดตั้งเป็นโครงการต่อเนื่องระยะยาว เท่าที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่

1.การจัดซื้อจากต่างประเทศ

          ได้ดำเนินการจัดซื้อ บ. US-2C จากสหรัฐ 1 เครื่องโดยวิธี FMS ตามโครงการจัดหาเครื่องบิน ซึ่งจะสามารถใช้เป็นเครื่องบินลากเป้าความเร็วสูงซึ่งกองทัพเรือยังขาดอยู่ เพื่อใช้ในการฝึกต่อสู้อากาศยาน โดยครั้งแรกจะซื้อ บ. ที่มีอยู่ในสหรัฐโดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 10.7 ล้านบาท ต่อมาได้เจรจาขอซื้อตามสภาพที่มีอยู่ ณ ที่ขาย คือประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ทำการตรวจสอบแล้วอยู่ในสภาพที่นำมาใช้ราชการได้เลย ได้ตกลงติดต่อซื้อขายกันในราคาประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากและเป็นการประหยัดงบประมาณ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับและเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว เมื่อต้นเดือนกันยายน 2519 นี้

2.รับการช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา

          . ที่ได้รับมาเหล่านี้ สำเร็จด้วยการเจรจาของผู้บัญชาการทหารเรือ กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งไทยและสหรัฐเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การพัฒนากำลังอากาศนาวีตามโครงการเป็นไปโดยรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับเครื่องบินชนิดต่างๆ ดังนี้

          -เครื่องบิน C-47 รับเพิ่มเติมอีกจำนวน 18 เครื่อง

          -เครื่องบิน O1 รับเพิ่มเติมอีกจำนวน 5 เครื่อง

-เครื่องบิน U-17 รับใหม่จำนวน 13 เครื่อง

          -เฮลิคอปเตอร์ UH-1H รับใหม่จำนวน 3 เครื่อง

          อนึ่งสำหรับเครื่องบิน U-17 นั้น เดิมสหรัฐได้ตกลงขายให้กับกองทัพเรือ 7 เครื่อง ผู้บัญชาการทหารเรือได้ติดต่อเจรจากับฝ่ายสหรัฐอเมริกาจนเป็นการให้เปล่า ซึ่งเป็นการประหยัดงบประมาณของชาติได้เป็นอันมาก และก็ได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 6 เครื่อง รวมทั้งสิ้นเป็น 13 เครื่อง สำหรับเฮลิคอปเตอร์ UH-1H นั้นกองทัพเรือได้อนุมัติหลักการให้จัดหาเพิ่มเติมอีก 3 ลำ โดยวิธี FMS แบบสินเชื่อ

กำลังนาวิกโยธิน

          ได้กำหนดแนวความคิดที่จะเสริมสร้างให้มีขีดความสามารถในการยกพลขึ้นบกได้ในระดับกองพันผสมให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นต้องจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์และเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบกควบคู่กันไป และจะเพิ่มขีดความสามารถเป็นขั้นตอนไปจนถึงสามารถยกพลขึ้นบกในอ่าวไทยได้ในระดับกรมผสม รวมทั้งปฏิบัติภารกิจพิเศษอื่นๆ โดยไม่รวมกองพันที่จัดเป็นกำลังรักษาความปลอดภัย ได้มีการดำเนินการตามโครงการนี้มาเป็นลำดับ เท่าที่ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่

          1.ได้จัดตั้งกองพันทหารราบที่ 8 กรมผสมนาวิกโยธินขึ้น โดยกำหนดให้มีที่ตั้งประจำอยู่ที่สถานีทหารเรือสงขลา

          2.ได้จัดตั้งกองร้อยสารวัตรทหารเรือขึ้นอีก 1 กองร้อย ประจำที่ฐานทัพเรือสัตหีบ

          3.วางแผนจัดตั้ง กองพันทหารราบที่ 9 กรมผสมนาวิกโยธินขึ้น ได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว โดยจะจัดให้มีที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส ขณะนี้ได้ซื้อที่ดินและการก่อสร้างเล็กน้อยบางส่วนไปบ้างแล้ว แต่โครงการจริงจะดำเนินการในปีงบประมาณ 2522

          4.จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ประจำหน่วยให้มีสมรรถนะสูงขึ้นด้วยงบประมาณประจำของกองทัพเรือ เช่น

          -จัดหารถ LVTP-7 จำนวน 9 คัน

          -จัดหาอาวุธปืน M-16 เป็นอาวุธประจำกายจนได้ครบทุกคน

          5.รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา โดยรับรถยกพลขึ้นบกที่จำเป็นสำหรับการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก มาเสริมรถยกพลขึ้นบกแบบเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมไปมาก ที่ได้รับมาแล้วมี

          -รถ LVTP-7 จำนวน 13 คัน

-รถ LVTR-7 จำนวน 1 คัน

จากผลการพัฒนาด้านนี้จึงทำให้ขีดความสามารถในการยกพลขึ้นบกด้วย การใช้รถยกพลขึ้นบกนับว่าสูงเกินกว่า 1 กองพันผสมยกพลขึ้นบก เป็นไปตามเป้าหมายในขั้นแรกแล้ว

การปรับปรุงกำลังและการช่วยเหลือตนเอง

          .การปรับปรุงเรือ

ได้มีแนวทางปฏิบัติ โดยมีโครงการดำเนินการตามระยะเวลา เพื่อทำให้เรือที่ยังมีคุณค่าสำหรับใช้ในราชการกองทัพเรือมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถทางด้านยุทธการของเรือเก่าให้ใช้การไปได้อีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง ปรับปรุงให้เรือชั้นเดียวกันมีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อก่อให้เกิดความสะดวกในการใช้ทางยุทธการ การฝึกและการส่งกำลังบำรุง สำหรับที่มีอายุราชการนานและคุณค่าทางยุทธการลดลง ก็ดัดแปลงให้เป็นเรือที่มีหน้าที่ในการฝึกเป็นภารกิจหลัก และมีหน้าที่ทางยุทธการเป็นภารกิจรอง

          ทั้งนี้ได้ใช้งบประมาณประจำของกองทัพเรือเอง และหรือความช่วยเหลือจากมิตรประเทศ แต่หากพิจารณาแล้ว เห็นว่าจะสิ้นเปลืองงบประมาณในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโดยไม่คุ้มค่า จะได้ปลดระวางเพื่อไม่ให้เป็นภาระอีกต่อไป โครงการนี้ได้ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ตลอดมา และปัจจุบันก็กำลังดำเนินการต่อไปตามระยะเวลา

          .การปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ของนาวิกโยธิน

มีแนวปฏิบัติเช่นเดียวกับการปรับปรุงเรือ  ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงรถยกพลขึ้นบกเก่า คือ LVT-4 ซึ่งใช้ราชการมานานขาดชิ้นส่วนอะไหล่ โดยปรับปรุงและยุบรถ LVT-4 จากจำนวนที่มีทั้งหมด และสามารถดำเนินการให้เป็นรถที่พร้อม และมีขีดความสามารถที่จะใช้ได้แล้วเป็นจำนวน 9 ลำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกให้สูงตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้

          .การเปลี่ยนอาวุธประจำการของทหาร

อาวุธประจำการของทหารในกองทัพเรือส่วนใหญ่คือปืน M1 ได้ล้าสมัยและคุณค่าทางการรบต่ำลง จึงได้ดำเนินการจัดหาอาวุธปืน M-16 ที่ทันสมัยพร้อมทั้งลูกปืนและส่วนประกอบ จนสามารถเปลี่ยนอาวุธประจำการของทหารทุกหน่วยในกองทัพเรือให้ใช้ปืน M-16 เป็นอาวุธประจำกายได้ตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นไป

.ศูนย์ยุทธการทางเรือ

ความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งขึ้น เพื่อควบคุมการปฏิบัติการของกำลังทางเรือในทะเล ทั้งในยามปรกติ และหากสถานการณ์ฉุกเฉินจะได้สามารถควบคุมความเคลื่อนไหวต่างๆ ในทะเล เพื่อให้การรักษาความมั่นคงทางทะเลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเพื่อใช้เป็นศูนย์สั่งการและรวบรวมข่าวสารในภารกิจอื่นๆ ของกองทัพเรือด้วย ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการตามแผนแล้ว โดยจะได้จัดตั้งขึ้นในอาคารยุทธกีฬาที่กำลังก่อสร้างอยู่ในบริเวณพระราชวังเดิม

.โครงการจัดหาอมภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือตัวเอง

          จากการที่สหรัฐอเมริกาจะเลิกช่วยเหลือทั้งสิ้น ลูกปืนและอมภัณฑ์ต่างๆ ที่เคยได้รับการช่วยเหลือก็จะได้หมดไป ความจำเป็นในการจัดหาจึงได้ดำเนินการโดยเร่งด่วน นอกจากการจัดซื้อจากต่างประเทศแล้ว กองทัพเรือยังได้เห็นถึงความสำคัญที่จำเป็นจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตให้ได้ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในการจัดหา และเป็นหลักประกันให้มีอมภัณฑ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ทั้งยุทธการและการฝึก รวมทั้งที่จะต้องเก็บไว้เป็นอัตรามูลฐาน อัตราสงครามและเป็นกระสุนสำรองสงครามให้เพียงพอ ผู้บัญชาการทหารเรือจึงได้อนุมัติโครงการให้กรมสรรพาวุธทหารเรือดำเนินการเพื่อการผลิตลูกปืน 40 มม. และ 20 มม. คาดว่าจะดำเนินการผลิตตั้งแต่ปีงบประมาณ 2520 เป็นต้นไป ซึ่งในขั้นแรกนี้สามารถที่จะผลิตลูกปืนฝึกได้ก่อน และได้มีการวิจัยต่อไปให้สามารถผลิตลูกปืนชนิดและขนาดอื่นๆ ตามความจำเป็นที่ต้องการจะใช้

บทสรุปปิดท้าย

การเสริมทัพช่วงเวลาที่พลเรือเอกสงัด ชลออยู่เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นไปตามแผนพัฒนากำลังรบ เป็นโครงการต่อเนื่องระยะยาว และเป็นไปตามสถานการณ์ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ผลงานสำคัญคือเรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถีชั้นเรือหลวงราชฤทธิ์จากอิตาลี แม้ถูกโจมตีจากผู้เสียผลประโยชน์และสื่อมวลชนเกือบทำให้โครงการล้ม  ทว่าท้ายสุดการจัดหาเรือคุ้มครองการสำรวจน้ำมันในทะเลก็ประสบความสำเร็จ

โครงการสร้างเรือตรวจการณ์ความเร็วสูงเดินหน้าไปเรื่อยๆ จากเรือ ต.92 จนถึงเรือ ต.99 เรือตรวจการณ์ลำน้ำจำนวนมากเข้าประจำการรับใช้ชาติตามแผนการ เรือใช้งานเครื่องหมายทางเรือยังประจำการจนถึงปัจจุบัน ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก LVTP-7 เป็นกำลังรบหลักให้กับนาวิกโยธินจนปัจจุบัน อากาศยานที่ได้รับจากอเมริกาถูกใช้งานอย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์ในการป้องกันประเทศ โครงการพึ่งพาตัวเองถือเป็นการเริ่มต้นที่ถูกต้องเหมาะสม ภาพรวมดูดีเหมาะสมกับสถานการณ์และงบประมาณ เพียงแต่กองทัพเรือยังไม่มีเรือฟริเกตรองรับการใช้งานเฮลิคอปเตอร์แม้แต่ลำเดียว

++++++++++++++++++++

 

อ้างอิงจาก : หนังสือ ผลงานของพลเรือเอก สงัด ชลออยู่

 

ภาพประกอบจาก :

https://web.facebook.com/RoyalThaiNavyFanpage/posts/5000483473312463?_rdc=1&_rdr

https://web.facebook.com/photo.php?fbid=1382949942499946&set=pb.100023548596728.-2207520000.&type=3

https://www.thaifighterclub.org/

https://thaimilitary.blogspot.com/2019/06/tank-landing-ship.html

https://web.facebook.com/photo/?fbid=4409447332416083&set=pcb.4409447542416062

https://www.fleet.navy.mi.th/thaifly/index.php/history/detail/history_id/123

https://web.facebook.com/photo?fbid=846614649623154&set=pcb.846615189623100


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น