วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

Police Tank Killer

 

บนลานจอดแสดงอาวุธกลางแจ้งข้างพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน เปรียบได้กับโกดังคลังเก็บอาวุธขนาดย่อมๆ ที่นี่เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บลูกนาวีแห่งกองทัพเรือไทย ตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีน สงครามมหาเอเชียบูรพา สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม เลยมาถึงสงครามเย็น เมื่อปลดประจำการจึงนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน

หนึ่งในนั้นคือปืนใหญ่ต่อสู้รถถังขนาด ๓๗ มม. เป็นปืนประเภทลากจูง ขนาดความกว้างปากลำกล้อง ๓๗ มม.ชนิดลำกล้องสั้นผลิตในญี่ปุ่น แบ่งเป็น ๒ รุ่นคือรุ่นลำกล้องยาวกับรุ่นลำกล้องสั้น กองทัพเรือจัดหามาใช้งานปี 2485 ระหว่างสงครามมหาเอเชียบูรพา บรรจุอยู่ในกองต่อสูรถถังจำนวน ๑ กองร้อย

ทหารเรือเรียกปืนใหญ่ต่อสู้รถถังขนาด ๓๗ มม.ว่า ปืนสู้รถถังขนาด ๓๗ปืนรุ่นนี้มีบทบาทในเหตุการณ์กบฏวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๙๔ หรือที่เรียกสั้นๆว่า กบฏแมนฮัตตัน บังเอิญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดจากทางการ (รัฐบาล ทหารบก และตำรวจ) ฝ่ายทหารเรือไม่มีใครบันทึกข้อมูลทุกคนที่เกี่ยวข้องถ้าไม่ถูกจับกุมก็หนีออกนอกประเทศ เรื่องราวที่ผู้เขียนตั้งใจถ่ายทอดต่อขอให้ถือเป็นเรื่องราวในสภากาแฟ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคัดลอกจาก หนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ เป็นนิทานชาวไร่ ตอนที่ ๖๖ เขียนโดย น..สวัสดิ์ จันทนี คัดลอกมาเฉพาะการดวลกันระหว่างปืนสู้รถถังกับรถถัง

ผู้เขียนคัดลอกตรงทุกตัวอักษรและการเว้นวรรคของ น..สวัสดิ์ จันทนี

ฝันร้ายของรถถังตำรวจไทย

ขอย้อนกล่าวถึงวีรกรรมของจ่าเรือสารสินธุบ้าง เคราะห์ร้ายที่ข้าพเจ้าสืบหานามไม่ได้ จ่าเรือนี้และดูเหมือนจะมีจ่าเรืออื่นสมทบด้วย เมื่อกลับไปเรือที่บางนาไม่ได้ ก็มั่วสุมอยู่ในกองสัญญาณหมด ที่แท้มันก็อยากจะรบอยู่แล้วนั่นเอง เลยแกล้งบอกปัดมาว่ารถรางก็ไม่ได้เพราะไม่มีไฟ ไปทางถนนสุขุมวิทก็ไม่ได้เพราะไม่มีรถประจำทาง เป็นอันว่าตกคลักอยู่ที่กองสัญญาณมากมาย

ปืนสู้รถถังขนาด ๓๗ ที่กองสัญญาณมีอยู่สามกระบอก ต่างฉวยไปคนละกระบอก จ่าพวกนี้ฉวยมาได้ ๑ กระบอกในเช้าวันที่ ๓๐ มิ.. เวลา ๐๘๐๐ ก็มาตั้งอยู่ข้างพระหัตถ์ขวาพระบรมรูปรัชกาลที่ ๖ ทางถนนที่จะไปสี่แยกราชประสงค์ บังเหลี่ยมตึกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไว้ มิให้คนเดินถนนพระราม ๔ มองเห็นปืน เขาตั้งไว้จังก้ากลางถนนบรรุลูกพร้อม แต่ตัวไปนั่งซุ่มกินเหล้ากันอยู่ข้างต้นไม้

ตำรวจ ฯ คงมีแผนการบุกจากสามย่านไปทางศาลาแดง ดังนั้นรถถังตำรวจ ฯ จึงเลื้อยมาที่ละคันจากสามย่าน

เหมือนกับนัดกันไว้กับนางพยาบาล พอนางพยาบาลเห็นรถถังตำรวจ ฯ ผ่านหน้าโรงพยาบาลก็ตะโกนบอกพวกจ่าว่าเขามาแล้ว จ่านั่นก็รอจังหวะให้เป้าโผล่เสียก่อน เมื่อเห็นต้วมเตี้ยมมาใกล้จะถึงเส้นเล็งเขาก็เดินจากที่ซ่อนมากระตุกไกแซะเข้าให้ กระสุนปืนหวือมากระทบแตกที่รถถังตำรวจ ฯ คันแรก ตำรวจ ฯ ให้รถเมล์เหลืองมาลากเอากลับไป จ่าแกก็บรรจุกระสุนนัดที่ ๒ ใหม่ แล้วก็กลับไปนั่งกินเหล้ากันต่อไป

เหมือนกับเล่นภาพยนตร์ รถถังตำรวจ ฯ คันที่ ๒ ต้วมเตี้ยมมาอีก หญิงคอยเหตุ ก็บอกให้พวกจ่าเรารู้ตัวไว้แต่เนิ่นๆ อีกเช่นเลย จ่าก็กะพอจะเข้าเส้นเล็งก็เดินมากระตุกไกอีกแซะหนึ่งแล้วบรรจุนัดที่ ๓ ต่อไป ตำรวจ ฯ ก็ให้รถเมล์เหลืองมาลากรถถังคันที่ ๒ กลับไปอีก จ่าก็กลับไปนั่งกินเหล้าต่อไป

คันที่ ๓ ก็โดนอีแบบนี้อีก โดนทีหนึ่งก็ให้รถเมล์เหลืองลากไปเสียทีหนึ่ง แล้วก็ส่งเหยื่อมาให้ทหารเรือสังหารใหม่ เราจ้องแต่รถถังปรปักษ์เท่านั้น คนไม่เกี่ยว

คันที่ ๔ ก็อ้ายทำนองเดียวกัน ต้องให้รถเมล์เหลืองมาลากไปอีก

คันที่ ๕ ไม่เข็ด คงนึกว่าทหารเรือหมดกระสุน แล่นต้วมเตี้ยมมาอีก โดนโผงเข้าอีกต้องเป็นภาระของรถเมล์เหลืองอีก

คันที่ ๖----๑๐-๑๑ ถูกยิงทำนองเดียวกันหมด และก็ถูกรถเมล์เหลืองลากไปคืนรังตามเคย

แสนยานุภาพของตำรวจ ฯ ทางด้านนี้ คงหมดแค่นี้เอง ไม่มีโผล่มาอีกเลย คุณเผ่าคงเต้นวังปารุสกวันกระเทือนแน่

จ่าสามคนพิฆาตรถถังได้ ๑๑ คัน ถ้าบังเอิญเป็นฝ่ายรัฐบาลคงได้ติดเหรียญกันเต็มหน้าอกแน่ แต่นี่เป็นพวกกบฏเลยอด! วีรกรรมอันนี้ไม่น่าจะให้สูญไปเฉยๆ ใครรู้จักนามจ่าพวกนี้ขอให้บอกบรรณาธิการนาวิกศาสตร์ด้วยเจ้าข้า จะได้เอาไว้จำกันเล่น นอกจานั้นข้าพเจ้าขอวันทยาหัตถ์พวกนางพยาบาลของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พ.. ๒๔๙๔ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยว่า มีใจช่วยพวกทหารเรือจริงๆ โดยมิหวังค่าตอบแทนใดๆ รายชื่อค้นได้ง่าย ไปหาจากโรงพยาบาลเป็นเจอะแน่

ข้าพเจ้าถามว่าทำไมมันมากคันนักล่ะ จะฝอยละกระมัง เขายืนยันว่าได้รับฟังมาเช่นนั้นจริงๆ ดังนั้นใครเห็นว่าที่กล่าวไว้นี้ผิด ขอได้โปรดส่งข่าวมาแก้ไขได้

ทีนี้มาพิจารณากันว่าปืนต่อสู้รถถังกระบอกนี้ตั้งอยู่ตรงจุดไหน และสถานที่ที่จ่าแกกินเหล้าแกนั่งตรงไหน ข้าพเจ้าคิดว่าปืนกระบอกนี้คงตั้งอยู่ในรางรถรางสายประตูน้ำเฉลิมโลกนั่นเอง ปากกระบอกเล็งไปทางถนนสีลมตามแนวรถราง ตัวจ่าคงนั่งบังต้นไม้อยู่มิให้คนทางถนนพระราม ๔ มองเห็น และก็ต้องแอบมิให้ตำรวจ ฯ ที่อยู่บ้านเก่าของคุณยมราชเห็นด้วย (เวลานี้ตำรวจ ฯ จะมายึดชัยภูมิบนตึกของคุณยมราชหรือยังก็ไม่รู้เพราะยังเช้าอยู่ แต่เวลาภายหลังนั้นปรากฎว่าตำรวจ ฯ ได้ยิง ร.. พิทักษ์ เจริญศิริ เสียอานคารถฮาล์ฟแทรคดังได้กล่าวมาแล้ว)

คำกล่าวเรื่องที่ตั้งของปืนกระบอกนี้ของข้าพเจ้าจะผิดหรือถูกไม่รู้ เขียนเดาไปตามเหตุการณ์ เพราะปรากฎว่าจ่าพวกนี้ไม่โดนตำรวจ ฯ ยิงเลย พอเห็นรถถังตำรวจ ฯ แล่นข้ามรถรางก็ลุกเดินมากระตุกไกเอาดื้อๆ เป็นไม่มีผิดสักนัดเดียว ส่วนรถถังตำรวจ ฯ ก็ไม่เฉลียวใจว่าโดนยิงทางข้าง นึกว่าคงยิงมาจากลุมพินีหรือทางกองสัญญาณ พอโดนยิงเข้าไปโป้งหนึ่งรถก็ต้องหยุด ตีนตะขาบคงขัดข้อง บางทีรถจะหันเสียด้วยกระมังเลยเกิดงงไม่ได้พิจารณาให้ดีว่าถูกเข้าอย่างไร  เลยแล่นกันมาเป็นหางให้จ่าแกซ้อมมือเสียสนุกไป แต่ถ้ารถถังตำรวจ ฯ ขืนแล่นตรงไปได้ก็มีหวังเจอคุณพิทักษ์ เจริญศิริ บนรถฮาล์ฟแทรคแน่

คุณพิทักษ์ เจริญศิริ เมื่อเห็นรถถังตำรวจ ฯ และเสียงปืนทางศาลาแดงเงียบ จึงเอาฮาล์ฟแทรคแล่นมาที่ศาลาแดงในเวลาต่อมา แล้วตั้งยันอยู่ที่นั่นเพราะกลัวจะมีกำลังข้าศึกบุกเข้ามาทางสีลมอีก จึงโดนตำรวจ ฯ บนสโมสรแพทย์ (คือบ้านเจ้าคุณยมราช) ยิงเอาถึง ๕ แผล เลยกลายเป็นวีรบุรุษของฝ่ายแพ้ไป

ตำรวจ ฯ คนไหนไม่ทราบทางวางแผนให้รถถังแล่นเรียงหนึ่งตามกันมาจากสามย่านแต่เพียงด้านเดียว แสดงว่าเขาอ่านหนังสือน้อยเล่มไปหน่อย แต่กระนั้นก็ตามเขาก็เป็นฝ่ายชนะในที่สุด อ้ายฝ่ายเรากลับต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีหางจุกตูดไป คนอ่านหนังสือน้อยเล่มกลับเก่งไปได้แฮะ!

คุยกันท้ายบทความ

นิทานชาวไร่ ตอนที่ ๖๖ มีองค์กอบนิทานหรือนิยายอย่างครบถ้วน พระเอกคือจ่าทหารเรือสามคนกับปืนสู้รถถังขนาด ๓๗ คนร้ายระดับกีกี้คือรถถังตำรวจจำนวน ๑๑ คัน (วิ่งมาตายสถานเดียวไม่กีกี้ให้เรียกอะไร) บุคคลผู้วางแผนการบุกสีลมรับตำแหน่งลาสบอส เขามีตำรวจบนบ้านเจ้าคุณยมราชเป็นลูกน้องมือขวา นางเอกคือนางพยาบาลไม่ระบุนามเธอมีน้ำเสียงทรงพลัง และเพื่อนพระเอกผู้ดวงซวยคือ ร.. พิทักษ์ เจริญศิริ กับรถฮาล์ฟแทรค

สถานที่ยิงกันตามที่ น..สวัสดิ์ จันทนี กล่าวถึงแอดรู้จักเป็นอย่างดี เพราะตัวเองเคยทำงานแถวสีลมตั้งหลายปี คิดว่าสามารถค้นหาเส้นทางรถรางสายประตูน้ำเฉลิมโลกได้ ปัจจุบันไม่ได้อยู่กรุงเทพไปสำรวจสถานที่จริงไม่ได้ ตอนที่ชอบมาเดินเล่นศาลาแดงก็ดันไม่เคยอ่านนิทานชาวไร่ คิดถึงเรื่องนี้ทีไรรู้สึกเสียดายเสียเหลือเกิน

อ้างอิงข้อมูลจาก

          หนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือเอกสงัด ชลออยู่

ภาพประกอบจาก

https://web.facebook.com/smile.swhero/posts/pfbid0Bz2DiQpjq7jePmf5k9WNNLm6zSo1Ck3WgP5GVE8dBWynEn5ZC4B4fxExx9Cs3PeBl?__cft__[0]=AZVjMuE-9dLYehciJIL2rjNTIgNS49rmsC_rThjDGIaP1MaI5f9nNDgHoXBYX6f7avMC36gbCcZyKD9ilqDls3-5axI7x04HdAaW6vBSVe5BWYrd4bPHUDcdQDyfIqHXS6sOQBuKh9pxYZ5NeWdU8BierdXjcHihp8ubVPuDdjs_kKcEfMJB4vAIUuBml14cehUh3jUAKGcHFHUMiODaRBsd&__tn__=-UK-R

 https://www.matichon.co.th/article/news_1560220

 http://rach1968.blogspot.com/2018/01/m3m16.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น